Summary
“เตรียมอุดมศึกษา” “หน้าโรงเรียน” 2 วงเก่งจาก 2 รุ่นการแข่งขัน คว้าชัยในการแข่งขันดนตรีที่เดินทางมายาวนานกว่า 9 เดือน ปิดฉากอย่างสวยงาม THE POWER BAND SEASON 3 เวทีประกวดดนตรีคุณภาพระดับประเทศ ที่ คิง เพาเวอร์ ไทย เพาเวอร์ พลังคนไทย ผนึกกำลังกับวิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล และ 6 ค่ายเพลงชั้นนำของไทย เพื่อตัดสินหาผู้ครองแชมป์สุดยอดวงดนตรีที่เชื่อในพลังแห่งดนตรี…พลังแห่งทุกความเป็นไปได้
เวทีลุกเป็นไฟ ในรอบชิงชนะเลิศ THE POWER BAND 2023 Season 3 เมื่อวงดนตรีที่ผ่านเข้ารอบตัดสิน ทั้งหมด 30 วงจาก 5 สนามภูมิภาคของทั้ง Class A (รุ่นมัธยมศึกษา) และ Class B (รุ่นบุคคลทั่วไป) ต่างปล่อยพลังทางดนตรีกันสุดขีด หลังจากสร้างสรรค์โชว์ทะลุลิมิต เพื่อพิชิตรางวัลที่เป็นที่สุดแห่งความฝัน‘
การแข่งขันสนามตัดสินนี้ใช้เวลาถึง 2 วันเต็มๆ และแม้ผลตัดสินจะมีผู้ชนะการแข่งขันเพียงจำนวนหนึ่งจากทั้งหมด แต่ก็นับว่าทุกวงที่ผ่านมาถึงรอบนี้ได้ แม้จะได้รางวัลหรือไม่ได้รางวัลกลับไป พวกเขาต่างเป็นผู้ “ชนะ” ที่ได้เป็น 1 ใน 30 วงที่ได้รับคัดเลือกมาจากทั้งหมดกว่า 300 วงด้วยกัน และยังชนะ! ตัวเองที่ก้าวออกมาทำฝันให้เป็น.ไป.ได้
รางวัลที่แท้จริงที่ทุกวงได้รับคือประสบการณ์สำคัญกับ “ครั้งหนึ่งในชีวิต” โดยเฉพาะอย่างยิ่งพัฒนาการในการร้องและเล่นดนตรีของพวกเขาที่เห็นได้ชัดเจน รวมทั้งมิตรภาพจากการพบเจอและรู้จักกับเพื่อนต่างวง และหลายวงยัง “ฟิน” ที่ได้เล่นดนตรีตามความฝันแบบเต็มที่กับเพื่อนในวง และชวนไปอ่าน “30 ข่าวเมาท์ ชาวเพาเวอร์แบนด์ 3” จากเวที THE POWER BAND 2023 Season 3
จุดไฟรอบ Final ด้วยการแข่งขัน Class B (รุ่นบุคคลทั่วไป) ในวันแรก ที่นอกจากจะแสดง 1 เพลงศิลปินชั้นนำแล้ว ยังต้องโชว์อีก 1 เพลงที่แต่ละวงแต่งขึ้นมาใหม่เพื่อโชว์ศักยภาพบนเวทีนี้โดยเฉพาะ พร้อมคว้าใจและคว้าชัยจากคณะกรรมการทั้ง 5 ท่าน จากทั้งเบื้องหน้า เบื้องหลังวงการดนตรี และผู้ทรงคุณวุฒิ ระดับอินเตอร์ให้ได้
ผลแข่งขัน Class B (รุ่นบุคคลทั่วไป)
ชนะเลิศ: วง หน้าโรงเรียน (ศรีสะเกษ)
รองชนะเลิศอันดับ 1: วง The Six Sons (ภูเก็ต)
รองชนะเลิศอันดับ 2: วง อุดรพิทยานุกูล (อุดรธานี)
ชมเชย: วง 01.00 P.M. (กรุงเทพฯ)
ชมเชย: วง Dachshund (กรุงเทพฯ)
Best Creative Award: วง The Six Sons (ภูเก็ต)
Outstanding: 1.สองนักร้องนำ วง หน้าโรงเรียน (ภัทรภร เติมทานาม และ สุพิชญา ยวงจันทร์
2.มือกีตาร์ วง 01.00 P.M. (พิสิษฐ์ ปทุมวัน)
ทั้ง 15 วงจัดเต็มในทุกการแสดง เดือดตั้งแต่โชว์แรกจนนาทีสุดท้าย ทำให้คณะกรรมการ ผู้ชมทั้งฮอลล์ รวมทั้งผู้ชมผ่านช่องทาง Live สดทั้งช่องทางของ King Power Thai Power พลังคนไทย หรือ Workpoint Entertainment ต่างลุ้นจนหายใจหายคอไม่ทัน เพราะทุกวงทำได้ดีแบบสูสี
จนในที่สุด วง หน้าโรงเรียน ที่มีเสียงร้องสุดเนี้ยบเป็นอาวุธก็ทะลุทุกด่านคว้ารางวัลชนะเลิศและรางวัล Outstanding – นักร้องยอดเยี่ยม ไปครอง “ไม่คิดว่าจะได้ที่ 1 มันเกินคาดมาก รู้สึกว่าทุกอย่างที่เราทำมา สู้กันมา มันส่งผลแล้ว และอยากบอกทุกคนที่อยากทำตามความฝันว่า อย่าไปกลัว สักวันมันจะได้ผลลัพธ์ที่ดีแบบนี้ และต้องเชื่อว่าทุกอย่างมันเป็นไปได้” วงหน้าโรงเรียน ฝากความรู้สึกไว้ทั้งน้ำตา(แห่งความปลื้มปริ่ม)
“เป็นวงที่ผมเขียนโน้ตไว้เลยว่า เนี้ยบ” เพราะอย่างนี้พี่โอ๊บ เพิ่มศักดิ์ กรรมการถึงเทคะแนนให้วงหน้าโรงเรียน “เขามีหลายคนแต่เขาบาลานซ์ดี มีไดนามิกของแต่ละท่อน เข้าใจที่จะสื่อสารออกมาได้ นักร้องสื่อสารได้ดี นักดนตรีก็ทำหน้าที่บาลานซ์ได้ดี”
ในขณะที่รางวัลอื่นๆ เป็นของ The Six Sons ที่พาเพลงป็อปร็อกโดนใจในแบบฉบับของผู้บ่าวชาวใต้ควบอีกรางวัล Best Creative Award ไปได้ด้วยด้วยการสร้างสำเนียงพิเศษในดนตรีของพวกเขา อีกตัวอย่างของ “ความเป็นไปได้” วง อุดรพิทยานุกูล ก็คว้ารางวัลได้ แม้จะเคยอกหักจาก Class A ที่สนามขอนแก่น กลับไปรวมพลังรุ่นพี่รุ่นน้องมาร่วมสู้กันใหม่จนประสบความสำเร็จใน Class B การร้องและสร้างดนตรีที่ใช้กลิ่นอายอาร์แอนด์บีของวง รวมทั้งการหยิบเทคนิค Talk Box มาใช้…เป็นความสร้างสรรค์ที่ได้รับความชื่นชม
“ที่ผมชอบมากๆ คือ หลายวงที่เคยประกวดมาก่อน วันนี้เขาโตขึ้นมา ประกวดคลาสที่โตขึ้น ผมได้เห็นพัฒนาการที่แตกตางโดยสิ้นเชิง จนผมเซอร์ไพรส์” กรรมการพี่เป้ ผู้เห็นพัฒนาการของการแข่งขันมา 2 ปี เล่าถึงความว้าวในวันนี้
ส่วนรางวัลที่เหลือเป็นของ 2 วงในแนวร็อกจากกรุงเทพมหานคร ที่มาพร้อมการแสดงทรงพลังสุดหนักแน่น อย่าง วง Dachshund และ วง 01.00 P.M. ซึ่งมือกีตาร์ยังโชว์สกิลสุดมันจนต้องยกรางวัล Outstanding ให้ไปด้วยเลย
“15 วงของ Class B วันนี้ สร้างความดีใจและตื่นเต้นให้ผมมาก ความสามารถของทุกคนทำให้ผมรู้สึกว่าต่อไปอุตสาหกรรมดนตรีของเราจะทัดเทียมประเทศอื่นได้แน่ๆ ขอแค่มีโอกาสให้พวกเขาสร้างความเป็นไปได้” อ.ศรุติ กับความในใจในฐานะกรรมการครั้งแรก
Suggestion
ผลแข่งขัน Class A (รุ่นมัธยมศึกษา)
ชนะเลิศ: วง เตรียมอุดมศึกษา โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา (กรุงเทพฯ)
รองชนะเลิศอันดับ 1: วง Chada Band โรงเรียนภูเก็ตวิทยาลัย (ภูเก็ต )
รองชนะเลิศอันดับ 2: วง DS.RU.Band โรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยรามคำแหง (ฝ่ายมัธยม) (กรุงเทพฯ)
ชมเชย: วง ไข่ดาว โรงเรียนเตรียมอุดมดนตรี วิทยาลัยดุริยางคศิลป์มหาวิทยาลัยมหิดล (นครปฐม)
ชมเชย: วง LYRE Band โรงเรียนดุริยางค์ทหารบก (กรุงเทพฯ)
Best Creative Award: วง เตรียมอุดมศึกษา โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา (กรุงเทพฯ)
Outstanding: 1.มือกีตาร์ วง Chada Band (ธนยศ เจี่ยสกุล)
2.ตำแหน่งซอ วง เตรียมอุดมศึกษา (ปัณณทัต นราแก้ว)
3.มือกีตาร์ วง New Cluster (ด.ช.นรภัทร อภัยจิตต์)
ก้าวเข้าสู่การแข่งขัน Class A (รุ่นมัธยมศึกษา) 15 วง สำหรับอีก 1 วันเต็มๆ วงต้องเตรียม 2 เพลงเรียบเรียงใหม่มาใช้บนเวที ดีกรีความเดือดจัดยังระอุอย่างต่อเนื่องตั้งแต่วงแรกอย่าง Chada Band สร้างโชว์จัดดนตรีมาเต็มเจือกลิ่นละครเวทีได้อย่างโหดจัดจนวงคว้ารางวัลควบเก็บอีกรางวัล Outstanding ไปได้แบบกลับภูเก็ตพร้อมเสียงปรบมือกึกก้อง ในขณะที่อีกวงอย่าง DS.RU.BAND ก็ใช้ลูกผสมความเป็นแจ๊สมาเป็นโชว์สุดใจที่ต้องยกนิ้วให้พร้อมรางวัล เช่นเดียวความเป็นหนึ่งเดียวอันแข็งแกร่งส่งให้ วง LYRE Band ที่ในที่สุดวงก็สามารถหลุดกรอบของตัวเองได้สำเร็จด้วยการนำ comment ของกรรมการที่เคยได้รับมาใช้กับการแสดงในสนามนี้ ถือเป็นอีกหนึ่งการแสดงที่ประทับใจคนดู
Suggestion
TOP 3 เพลงบนเวที THE POWER BAND 2023 Season 3 รอบตัดสิน
เพลงสุดฮิตที่ผู้เข้าแข่งขันใจตรงกันเลือกมาแสดงบนเวที จากเพลงบังคับ 10 เพลง
ซึ่งทำให้เราได้ฟังเพลงเหล่านี้ในหลากหลายสไตล์ดนตรีไม่ซ้ำกัน
• อันดับ 1 เพลง “ลืมไปแล้วว่าลืมยังไง” …ของ เจฟ ซาเตอร์
มีถึง 10 วงที่เลือกใช้เพลงนี้ ได้แก่ Class B: วง The Six Sons วง Ground Zero
วง 4 Man Toey วง Airtemp
และ Class A: วง SG Band วง เตรียมอุดมฯ วง DS RU BAND วง New Cluster
วง The Humble และวง ไข่ดาว
• อันดับ 2 เพลง “ข้อยกเว้น” …ของ 4EVE
6 วง ที่เลือกใช้เพลงนี้ ได้แก่ Class B: วง Horny Boys วง Berzurk วง Reunion
และ Class A: วง I Love Wednesday วง Lonely Pepperoni และวง The Piclic Band
• อันดับ 3 เพลง “วาดไว้” …ของ Bowkylion
5 วงที่เลือกใช้เพลงนี้ ได้แก่ Class B: วง The Pump วง หน้าโรงเรียน วง TOMs&JERRY
และ Class A: วง Hidden Track และวง LYRE Band
• มีวงประกวดที่ใช้เพลง “ถ้าเธอไม่ไหว” อยู่ด้วย
เพลงประจำโครงการ THE POWER BAND คือวง อุดรพิทยานุกูล
ในขณะที่ดนตรีสุดแสนละมุนกลมกลืนทำให้ วง ไข่ดาว ได้รางวัลกลับไปด้วยการทำโชว์ที่ออกมาใกล้ความสมบูรณ์แบบมากทีเดียว ในขณะที่อีกหนึ่งรางวัล Outstanding ที่มาพร้อมแรงเชียร์ท่วมท้น ทั้งจากผู้ชมที่ยิ้มไปเอาใจช่วยไป จากคณะกรรมการที่ตัดสินไปถ่ายคลิปสุดประทับใจไป และจากเพื่อนๆ ทีมอื่นๆ ที่ดูการเล่นไปก็ขอชาบูเอ้อบูชาไป กับสไตล์การลีดกีตาร์สุดจี๊ดของ มือกีตาร์จิ๋วสุดแจ๋วจากวง New Cluster นั่นเอง
Suggestion
เก็บตกมิตรภาพระหว่างวง
• กีตาร์ของวงเตรียมอุดมศึกษาเกิดปัญหาทางเทคนิค
ในระหว่างการ Sound Check พอมือกีตาร์วง Chada Band เห็นก็รีบวิ่งไปเอากีตาร์ของตัวเองมาให้ยืมโชคดีทีทางเตรียมอุดมฯ แก้ไขปัญหาได้ทัน แต่น้ำใจที่น้องๆ มีให้กันนั้นน่ารักและน่าจดจำตลอดไป
• จีนส์ วิชญาพร มือกลองจากเตรียมอุดมศึกษา
เป็นสมาชิกของวงที่คว้ารางวัลชนะเลิศ Class A กลับบ้านเป็นตัวที่ 2
ก่อนนี้เคยเป็นสมาชิกวง Sixth Floor จากโรงเรียนเทพศิรินทร์
ผู้ชนะวงแรกในประวัติศาสตร์การแข่ง THE POWER BAND SEASON 1
“ดีใจมากครับ และรู้สึกโชคดีที่มีสมาชิกในวงที่น่ารักทุกคน ไปด้วยกันได้
จริงๆ ผมไม่ได้เก่ง แต่เราไปด้วยกันได้ดี เลยจับมือแล้วไปด้วยกันได้”
สุดท้ายกับการแสดงที่สร้างความว้าว ตั้งแต่เห็นเครื่องดนตรีไทยอย่าง ซอ ระนาด ขลุ่ย…เซตรวมกับเครื่องดนดนตรีสากล ขนเทคนิคร้องทั้งแร็ปทั้งใช้ beat box จนสร้างว้าวตามมาอีกจนนับไม่ถ้วน เมื่อวง เตรียมอุดมศึกษา ครีเอตโชว์ผสมผสานความเป็นไทยให้เข้ากับดนตรีสากลได้ให้ฟังง่ายและงดงาม จนกรรมการยกตำแหน่งชนะเลิศพร้อมสร้างสรรค์ให้ไปพร้อมกับเสียงปรบมือด้วยความชื่นชมจากผู้ชมทุกทิศทาง
“รู้สึกดีใจมาก มากๆ มากๆ มากๆ เพราะตอนแรกเกิดปัญหาบนเวทีทำให้ถอดใจไปแล้ว เกือบร้องไห้ แต่พอเข้าโชว์แล้วก็ต้องสนุกเพื่อทุกคน เพราะความตั้งใจเราคืออยากมาสนุกไปกับทุกคน ที่สำคัญทุกๆวงเก่งมาก ตอนที่ประกาศเลยไม่คิดว่าเราจะได้รับรางวัลชนะเลิศในครั้งนี้” จากใจวงเตรียมอุดมฯ ผู้ชนะเลิศจาก Class A
ในขณะที่กรรมการอย่างพี่พล คชภัค เป็นผู้ให้ความเห็นกับเรา “เตรียมอุดมศึกษาคือสุด ผมให้คะแนนครีเอทีฟเต็มๆ เขาหยิบเครื่องดนตรีไทยมาผสมได้อย่างกลมกล่อม อร่อยมาก เหมือนกินพิซซ่าหน้าต้มยำกุ้ง”
เป็นการจบการแข่งขันทีมองเห็นแต่คำว่าความสุข ความสนุก และทุกความเป็นไปได้เต็มไปหมดเลย
“นี่ไม่เหมือนมาตัดสินการแข่งขัน แต่มาเสพโชว์ดีๆ มาเติมพลังชีวิตตัวเองมากกว่า เซอร์ไพรส์ที่เห็นเด็กทุกวันนี้เก่งจนไม่น่าเชื่อ เก่งขึ้นเยอะมาก เราเอาอายุมาตัดสินไม่ได้ นี่คือพื้นที่เปิดสำหรับทุกคนจริงๆ” กรรมการพี่โอ๊บช่วยสนับสนุนความประทับใจ ในขณะที่กรรมการอินเตอร์อย่างคุณ Giorgi ยิ้มไปตอบไปกับความสุขที่ได้รับจากน้องๆ ผู้เข้าแข่งขันมาตลอดทั้งวัน “วันนี้ไม่มีผู้แพ้ มีแค่ผู้ชนะ และผู้ที่ไม่ชนะ ที่มาสนุกกับดนตรีไปด้วยกัน ทุกคนเก่งมาก ผมเชื่อว่าทุกคนมีอนาคตที่สดใสรออยู่ ขอเพียงคุณเล่นดนตรีที่รักกันต่อไป ไม่แน่ว่าวันนี้ผมอาจจะได้เป็นผู้ที่ร่วมอยู่ในจุดเริ่มต้นของศิลปินที่ยิ่งใหญ่ในอนาคตก็ได้”
ปิดท้ายให้สนุกกันล้นๆ จากมินิคอนเสิร์ตของสองศิลปินประจำโครงการอย่าง วง Tattoo Colour ที่จับมือมากับดูโอรุ่นน้อง Serious Bacon ยกความสนุกและประทับใจมาเต็มล้นโรงละครอักษรา คิง เพาเวอร์ เปิดโชว์ด้วยบทเพลงสร้างพลังบวกอย่างเพลง “ถ้าเธอไม่ไหว” เวอร์ชันของ THE POWER BAND 2023 Season 3 ก่อนที่ต่างก็แยกกันขนบรรดาเพลงฮิตของตัวเองขึ้นเวทีเรียกเสียงกรี๊ดสนั่นเวที ราวกับและผู้ชมได้มีคอนเสิร์ตส่วนตัวแบบใกล้ชิดศิลปินของเวทีนี้ ปิดท้ายความสนุกของซีซันนี้อย่างสุดมัน ก่อนจะไปเริ่มต้นสร้างแรงบันดาลใจกับความเป็นไปได้กันต่อไปอีกใน THE POWER BAND 2024 Season 4 ครั้งหน้า
คณะกรรมการตัดสิน THE POWER BAND 2023 Season 3 สนาม Final ได้แก่ 1.คุณพล – คชภัค ผลธนโชติ Director Music Business ค่าย Boxx Music / Zircle Muzik 2. คุณโอ๊บ – เพิ่มศักดิ์ พิสิษฐ์สังฆการ Director – Music Business Move Records 3. คุณเป้ – ไพสิฐ คำกลั่น หรือ “Pae Sax” วง Mild กรรมการประจำภาคสนาม 5 สนาม 4.คุณศรุติ วิจิตรเวชการ หัวหน้าสาขาวิชาดนตรีแจ๊ส วิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล และ 5.Associate Professor Giorgi Mikadze จาก Berklee College of Music