หลังการปล่อยแสงสำแดงฝีมือฟาดฟันกันผ่านบทเพลงจากหลากหลายศิลปินชั้นนำของบ้านเรา ในที่สุดการแข่งขันดนตรีสากลที่เข้มข้นและมีคุณภาพที่สุดสนามหนึ่งก็ได้ 3 ทีมผู้เข้ารอบชิงชนะเลิศของทั้งคลาส A และคลาส B เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
THE POWER BAND 2023 SEASON 3 IT’S POSSIBLE, MUSIC MAKES LIFE POSSIBLE พลังแห่งดนตรี พลังแห่งทุกความเป็นไปได้ เวทีประกวดดนตรีระดับประเทศ โดย คิง เพาเวอร์ไทย เพาเวอร์ พลังคนไทย ผนึกกำลังกับวิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล และ 6 ค่ายเพลงชั้นนำของไทย เดินทางเข้าสู่โค้งสุดท้ายของรอบออดิชันที่ภาคใต้ สนามสงขลา
การแข่งขันคราวนี้ นอกจากเป็นการต่อสู้ของคนคนตรีทั้งในระดับมัธยมศึกษา (คลาส A) และบุคคลทั่วไป (คลาส B) จากทั้งในปักษ์ใต้บ้านเราแล้ว ยังมี “ทีมเยือน” เป็นวงจากทั้งราชบุรี กรุงเทพฯ ไปจนถึงวงจากจังหวัดที่เดินทางมาไกลถึง 1,500 กิโลเมตร อย่างลำปาง เดินทางมาช่วงชิงโอกาสสู่รอบชิงชนะเลิศที่เหลือน้อยลงทุกทีเพราะเป็นสนามท้ายๆ
วงที่เข้ารอบก่อนคือ วงเจ้าถิ่นอย่าง Chada Band ที่ส่งโชว์สุดดราม่าราวกับละครเพลงสุดเข้มข้นมาเป็นอาวุธเด็ดสร้างความแตกต่าง “Chada Band เขานำเสนอการแสดงกึ่งๆ musical มีความครีเอทีฟ นักดนตรีก็ทักษะดี นักร้องนำสร้างเรื่องราว สร้างสรรค์แบบน่าสนใจ น่าจะมีการนำเสนอแบบนี้อีก” และอาจารย์แป๊ป – วิโรจน์ สถาปนาวัตร อาจารย์จากวิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล หนึ่งในคณะกรรมการเล่าถึงที่มาของการเทคะแนนให้
“สิ่งที่พวกเราตั้งใจนำเสนอให้กรรมการเห็น กรรมการก็มองเห็นและชื่นชอบด้วย
เลยรู้สึกว่าจี๊ดใจ ส่วนเมื่อได้ผ่านเข้ารอบเราก็เลือกเพลงในใจกันไว้บ้างแล้ว
โดยยังคงใช้กิมมิกนำเสนอเพลงแบบมิวสิคัลอีก เพราะเป็นเอกลักษณ์ของวงเรา”
วง Chada Band
Class A สนามสงขลา
ถัดจากนั้นโอกาสตกเป็นของวงจากกรุงเทพฯ ที่ลงมาคว้าความสำเร็จก้าวแรกไปครองได้อีกครั้ง นั่นก็คือ I Love Wednesday ที่เคยมาร่วมประกวด 3 ซีซันและได้เข้ารอบสุดท้ายมาโดยตลอด
พี่ติ๊ก – กฤษติกร พรสาธิต ผู้บริหารค่ายเพลง Home Run Music และคณะกรรมการของสนามนี้เล่าถึงความประทับใจพร้อมมองเห็นความตั้งใจของวงเอาไว้ “วง I Love Wednesday เป็นวงที่เห็นพัฒนาการ ล่าสุดเมื่อปีที่แล้ว เราเห็นเสน่ห์ของเขา ทุกคนในวงมีความเป็นเอนเตอร์เทนเนอร์อยู่ในตัว มีความเป็นธรรมชาติ เขาสนุกกับตัวเอง สนุกกับเพื่อน จนส่งความสนุกให้กับผู้ชมได้ดี”
“การมาแข่ง THE POWER BAND ทำให้พวกเราเก่งขึ้น มีประสบการณ์เพิ่มขึ้นและสกิลก็มีมากขึ้น
ดีใจที่ได้มาแข่งรายการนี้ สำหรับปีนี้ทำให้เราในวงสนิทกันมากขึ้นด้วย เพราะเราเพิ่งรวมวงกัน
ซีซันที่ 3 เรามาไกลกันถึงสงขลา เราส่งประกวดที่กรุงเทพฯด้วยแต่ไม่ได้เข้ารอบ
อาจเพราะเรามีเวลาเตรียมตัวกันน้อย แต่ครั้งนี้เราซ้อมด้วยกันมาระยะเวลาหนึ่งแล้ว
จนคิดว่าเป็นไปได้ที่เราจะทำได้สำเร็จ
แน่นอนว่ามีความตื่นเต้นกับการเดินทางด้วย แต่เรามาไกลแล้วได้ประสบการณ์เพิ่มขึ้นด้วย”
วง I Love Wednesday
Class A สนามสงขลา
“เรามาประกวดกันมาในบ้านตัวเอง ถึงจะเป็นวงที่มีรุ่นพี่เรียนจบกันไปบ้างแล้ว
แต่วงของพวกเราในปีนี้ก็เต็มที่ที่สุดไม่แพ้กัน ทั้งการซ้อมและการเตรียมตัว ทุกคนเต็มที่ที่สุด
เราใช้ความพยายามมากขึ้นอีก ได้ใช้ความรู้ที่รุ่นพี่เคยสอนและนำประการณ์
ของคนที่เคยผ่านประกวดในปีที่แล้วมาใช้เพื่อแบ่งปันให้เพื่อนสมาชิกใหม่
ปีนี้ตั้งความหวังไว้มากและยังตั้งใจจะไปให้ถึงฝันในปีนี้”
วง The Humble
Class A สนามสงขลา
ปิดท้ายให้คนใต้ได้ฉลองกันดังๆ ซ้ำอีกครั้ง เมื่อวง The Humble วงเดิมจากปีที่แล้วที่มีสมาชิกเปลี่ยนรุ่น เดินตามรอยความสำเร็จของวงรุ่นก่อน ไม่ปล่อยให้ที่่นั่งในรอบชิงชนะเลิศหลุดมือไป “วง The Humble เป็นวงรุ่นต่อรุ่น มาเป็นสิบปีแล้วนะ ที่เขาใช้ชื่อนี้มาและประสบความสำเร็จทุกครั้ง” พวกเขาเป็นวงที่กรรมการชม โดยพี่เป้ – ไพสิฐ คำกลั่น หรือ “Pae Sax” สมาชิกจากวง Mild หนึ่งในคณะกรรมการ ชอบใจจริงๆ “วันนี้เขาทำได้ดีสมบูรณ์แบบ…humble… และนักร้องดีทุกรุ่น ยิ่งวันนี้นักร้องชายทำงานได้ดีมาก มีเสียงเป็นเอกลักษณ์และมีควอลิตี้ นุ่ม ละมุน น่าสนใจ บราสเซ็กชันก็ก็แข็งแรงมากกับมีศักยภาพที่พร้อมจะไปต่อ”
Suggestion
วงที่ผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศ จากสนามสงขลา ได้แก่
CLASS A
วง Chada Band โรงเรียนภูเก็ตวิทยาลัย ภูเก็ต
วง I Love Wednesday โรงเรียนโยธินบูรณะ กรุงเทพฯ
วง The Humble โรงเรียนมหาวชิราวุธ สงขลา
CLASS B
วง 4 Man Toey (สงขลา)
วง The Six Sons (ภูเก็ต)
ไม่ปล่อยให้ลุ้นนาน เรามาต่อกันที่คลาส B อย่าง วง Six Sons ไม่ทำให้ชาวใต้ผิดหวัง พวกเขาทั้ง 6 ส่งโชว์ 2 เพลงเล่นยาก มาเรียกเสียงปรบมือจากผู้ชมแบบลั่นฮอลล์ “พัง (Indigo) ตอนแรกเราเลือกเพลงอื่น แต่เพราะสมาชิกแต่ละคนตีความหมายเพลงไม่เหมือนกัน เราเลยเปลี่ยนมาเป็นเพลงนี้ ก็มาเปิดใจคุยกัน ช่วยกันหา reference ที่ลงตัว เพื่อให้ดนตรีมันมีลายเซ็นของสมาชิกแต่ละคน ส่วนเพลงลืมไปแล้วว่าลืมยังไง (เจฟ ซาเตอร์) เพลงนี้พวกเราใช้เวลานานมากในการทำ เพราะต้นฉบับมันจะเป็นอีกแนวเลย ที่มาเปลี่ยนเป็นเวอร์ชันนี้เพราะเราอยากโชว์การเล่นดนตรีเป็นทีมเวิร์ก เน้นขายเมโลดี้สวยๆ มีไดนามิกในการร้อง คนฟังจะรู้สึกว่ามันเป็นเพลงเศร้าจริงๆ ว่าลืมไปแล้วมันลืมยังไง”
การตัดสินใจของวงถูกต้องจริงๆ เพราะกวาดคะแนนนิยมจากกรรมการทั้ง 3 ท่านไปอย่างสวยงาม “ประทับใจการดีไซน์แรกแสดงและการเล่นดนตรีของเขา เป็นการให้ความละเอียดกับดนตรีที่เล่น ทำให้เกิดโชว์ที่น่าประทับใจ” พี่ติ๊กพูดถึงที่มาของคะแนนเน้นๆ ที่พวกเขากวาดไปเต็มๆ”
“ช่วงแข่งอาจจะมีสะดุดบ้าง แต่รวมๆ แล้วพวกเราพอใจแล้ว แข่งเสร็จรู้สึกโล่งมากครับ
กรรมการคอมเมนต์มาโดนใจถึงดนตรีที่เราพยายามสื่อสารให้กับคนฟัง
ก็สำเร็จมาขั้นหนึ่งแล้ว เราเตรียมไปสนาม Final โดยจะตีความหมายเพลงที่จะนำไปแข่ง
ตรงนี้ยังจะเป็นการหาลายเซ็นของวงเราในสนามหน้าด้วย”
วง The Six Sons
Class B สนามสงขลา
“โอกาสบนเวทีพวกเรารู้สึกเกินคาด ความสำเร็จที่ได้รับจากการทำดีที่สุดคือได้ผ่านเข้ารอบ
สำหรับรอบชิงพวกเราตั้งใจไว้ว่าอยากเพิ่มเรื่องความชัดของการแต่งตัวตามที่กรรมการแนะนำ
ส่วนเรื่องดนตรีคือจะเก็บรายละเอียดต่างๆ เพิ่มให้ครบ
กรรมการบอกยังไปไม่สุด แต่เราก็พยายามทำดนตรีออกมาให้เต็มที่”
วง 4 Man Toey
Class B สนามสงขลา
Suggestion
สุดท้ายคือวงสุดจี๊ดอย่าง 4 Man Toey ที่โชว์สุดดีพกับเพลง “ลืมไปแล้วว่าลืมยังไง” (เจฟ ซาเตอร์) แถมการแสดงอีกเพลงแบบมันสุดกับ “รักสนุก” (จีน กษิดิศ) ที่ทั้ง 2 เพลงส่งพลังให้พวกเขาเข้าสู่รอบสุดท้ายอย่างงดงาม “เพลงที่เลือกมาโชว์วันนี้ เราเลือกเพลงที่ร้องยาก เพราะถ้าจะมาประกวดทั้งทีก็ต้องเลือกเพลงที่มันยาก”
“4 Man Toey โดดเด่นตั้งชื่อ” พี่เป้ทั้งชื่นชมและรอชมวงนี้อย่างตั้งใจ “ตรงไปตรงมา ฟรอนต์แมนโดดเด่นมาก อยากให้วันรอบ Final วงเป็นตัวเองที่สุด เพื่อที่จะ shining อย่างที่เขาตั้งใจ”
นอกจากนั้นยังมีรางวัลสุดพิเศษขวัญใจชาวโซเชียล ที่ 4Lives จากราชบุรี ส่งการแสดงสุดพีคกวาดยอดไลก์ ยอดแชร์ ยอดคอมเมนต์ จากทุกช่องทาง จนได้รับรางวัลนี้ไปครอง
ก่อนจะส่งท้ายค่ำคืนด้วยความสนุกจาก 3 ศิลปิน 3 สไตล์ เริ่มจากน้องใหม่พลังแรง Methane คูลๆ ไปกับ Serious Bacon และปิดท้ายด้วยรุ่นพี่สุดเก๋าอย่าง Tattoo Color ที่มอบโอกาสพิเศษให้นักดนตรีรุ่นน้องที่มาประกวดได้ขึ้นแสดงสดด้วยกัน แสดงถึงพลังแห่งความเป็นไปได้ คือน้องมือกีตาร์จากวง I Love Wednesday โดยศิลปินทั้งหมดต่างเรียกเสียงกรี๊ดและเสียงปรบมือจากแฟนเพลงของพวกเขาที่เรียกว่ามากันจนล้นหอประชุมสถานที่จัดกันแบบถล่มทลาย
หลังจากนี้ผู้ชมและวงประกวดที่ก็เตรียมตัวมาร่วมลุ้น 6 ที่ว่างสุดท้ายในรอบชิงชนะเลิศกันต่อได้แล้วที่สนามนครปฐม จากนั้นค่อยรอชมโชว์สุดประทับใจจากทุกวงจากทั้ง 2 คลาสในวันที่ 25 ส.ค. นี้ได้เลย