Summary
‘เอเล่เฟ่น ดอลล์’ ตุ๊กตาช้างผ้าไหมสีสดหลากสี หลากอิริยาบถ ทั้งยืน นั่ง หรือชกมวย เอกลักษณ์ที่เลียนแบบยากเพราะมีการออกแบบและตัดเย็บอย่างละเอียด จนทำให้หลายคนอดใจไม่ไหวต้องพาน้องช้างกลับไปเป็นของฝากให้คนที่คิดถึง หรือไม่ก็เป็นที่ระลึก…ว่าครั้งหนึ่งได้มาเมืองไทย
‘ช้าง’ คือสัตว์คู่บ้านคู่เมืองกับประเทศไทยมานาน จึงมักได้รับตำแหน่งเป็นตัวแทนของขวัญหรือของฝากให้นึกถึงการมาเยือนเเมืองไทยอยู่เสมอ และหนึ่งในผลิตภัณฑ์ของฝากที่มีเอกลักษณ์ชัดเจนอย่าง ‘เอเล่เฟ่น ดอลล์’ (Elephant Dolls) ก็มักมีผลต่อจิตใจต่อผู้พบเห็น
ช้างของเอเล่เฟ่น ดอลล์ มีด้วยกันถึง 20 แบบ และด้วยรูปแบบช้างเสมือนจริงที่ดูน่ารักกับสีสันที่สดชวนสะดุดตา จนหลายคนต้องยอมยกธงขาวแล้วพร้อมพาน้องใส่กระเป๋ากลับบ้านข้ามน้ำข้ามทะเลไปเก็บเป็นที่ระลึกหรือฝากคนที่คิดถึงต่อไป…เป็นพลังไทยและพลังคนไทยที่มัดใจคนทุกชาติ
ก่อนเป็น Elephant Dolls เป็น “ตุ๊กตาขน” มาก่อน
คุณแนน – ชณิชา ภูสิษฐ์โชต เจ้าของ Elephant Dolls เล่าให้ฟังว่า จริงๆ การผลิตตุ๊กตาของที่นี่เริ่มต้นจากสมัยคุณพ่อและคุณแม่ของสามี คือคุณมาร์ค – ไชยวัตร ชื่นไกรลาศ เมื่อ 40ปีที่แล้ว ที่เริ่มต้นทำธุรกิจผลิตอาหารควบคู่กับการรับผลิตตุ๊กตาขนเป็นรูปสัตว์ต่างๆ เพราะเจ้าของเดิมต้องการเลิกกิจการและเห็นว่าคุณพ่อคุณแม่สามารถดำเนินต่อได้จึงพร้อมถ่ายทอดการผลิตทุกอย่างให้ทั้งหมด
ใครทันน้องตุ๊กตานกฮูกกับควายสีเทาเมื่อครั้งยังเด็กได้ ที่นี่คือจุดเริ่มต้นเลย พร้อมกับเป็นที่สร้าง “ตุ๊กตาช้างขน” ขึ้นมาตั้งแต่คราวนั้น
คาแรกเตอร์ไม่เหมือนใครของ ‘เอเล่เฟ่น ดอลล์’
1.สีสัน
ต้องสดสะดุดตาโทนแดงส้ม
2.รูปแบบช้างที่หลากหลาย
บ่งบอกความเป็นไทย เช่น ช้างนั่งหรือยืนชกมวย
3.ความละเอียด
จากฝีเข็มการเย็บที่รู้สึกได้ทั้ง 3 มิติ
“แนนกับแฟนมารับช่วงต่อตอนปี 2550 เพราะคุณพ่อคุณแม่จะเลิกทำ ความที่เป็นพนักงานสินเชื่อธนาคาร ทำให้เห็นว่าข้อดีธุรกิจนี้คือ ยังมีความต้องการสินค้าอยู่เพียงแต่ไม่เคยทำการตลาดหรือหาลูกค้าเอง ไม่มีแบรนด์เป็นของตัวเองหรือทำเว็บไซต์ไว้สื่อสาร จึงตัดสินใจออกจากงานทั้งคู่แล้วเริ่มเรียนรู้งานจากพนักงานตั้งแต่ต้นทางถึงปลายทาง จากวิธีการดูผ้า จับผ้า การเย็บ อุปกรณ์การเย็บอย่างจักร การยัดใย การสอยแบบไหนตะเข็บถึงสวยที่ฝึกจนเลือดออกมือ ทำเพจ พร้อมสมัครเป็นสมาชิกกับกรมส่งเสริมการส่งออก และเริ่มออกงานเทศกาลของขวัญต่างๆ”
รากเหง้าที่ส่งต่อรุ่นสู่รุ่น
ที่ใช้ชื่อแบรนด์ Elephant Dolls ก็เพื่อให้ไม่ลืม “รากเหง้า” หรือธุรกิจที่เริ่มต้นทำมาตั้งแต่รุ่นพ่อแม่ และช้างยังเป็นสัญลักษณ์ที่บ่งบอกความเป็นไทยที่ชัดเจนสุด พยายามทำทุกรูปแบบโดยเริ่มจากต้องมี ดีไซเนอร์เป็นของตัวเองก่อน เพราะจากที่วาดเป็นคาแรกเตอร์ช้างรูปแบบต่างๆ ไว้ ทำให้ลองขึ้นแบบและตัดเย็บให้เห็นเป็นรูปร่างชัดเจนได้
มาถึงจุดเปลี่ยนที่สร้างโอกาสสำคัญคือการได้ผลิตตุ๊กตาช้างเป็นผ้าไหมของจิม ทอมป์สัน โดยรับผ้าไหมจากโรงทอผ้าเขามาโดยตรง ซึ่งถือเป็นโอกาสได้เรียนรู้และฝึกฝนอย่างดีเพราะการเย็บผ้าไหมต้องอาศัยความชำนาญมาก และเมื่อทำได้จนชำนาญก็สามารถดีไซน์รูปแบบได้หลากหลายมากขึ้น
“พอทำแบรนด์ตัวเองจึงเริ่มหาวัตถุดิบผ้าไหมจากคนใกล้ตัวก่อน คือพนักงานที่ปกติทางบ้านหลังจากทำไร่ทำสวนจะทอผ้าไหมกัน ซึ่งได้ผ้าไหมจาก 4 แห่งส่วนใหญ่มาจาก 2 จังหวัดหลักๆ คือสุรินทร์และลำพูน และใช้มาจนถึงปัจจุบัน ทำให้แยกข้อดีและข้อจำกัดของผ้าไหมแต่ละลายเพราะมีผลต่อความยากง่ายในการเย็บที่แตกต่างกัน อีกทั้งตัวเส้นไหมก็มีเสน่ห์ในตัวเอง อย่างไหมแท้เวลาส่องไฟกับไม่ส่องไฟก็จะคนละโทนสีเนื่องจากมีความเหลื่อมเงาอยู่ในตัว จึงเป็นสาเหตุที่คนชอบเอาไปปูนอนเพราะมันทั้งสวยและเย็น หรือถ้าเป็นไหมเทียมก็จะไม่เงาและมีความนุ่มน้อยกว่า”
Suggestion
คาแรกเตอร์สำคัญของช้าง Elephant Dolls
จนความบังเอิญที่พบเจอกลายเป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งที่ได้มา เพราะจากความกังวลของชาวบ้านที่ย้อมเส้นไหมให้บอกว่า ไหมแต่ละครั้งที่ย้อมได้สีที่ไม่เหมือนกันเลย จึงต้องสื่อสารให้เขาเห็นว่า จริงๆ มันคือเสน่ห์มากกว่า เพราะท้ายสุดแล้วก็ต้องนำมาแมตซ์สีให้ออกมาตามคาแรกเตอร์ที่ได้ออกแบบไว้
“ความเป็น Elephant Dolls อย่างแรกเลยสีสันชิ้นงานที่ออกมาต้องดูสะดุดตาในโทนสีแดงส้ม แต่ไม่ใช่สดไปทุกส่วนจนไม่มีจุดโฟกัสหรือจุดเด่นในแต่ละชิ้น เพราะการจัดวางผ้า 1 ชิ้นเราจะมีวิธีการจัดเรียงให้ช้างเด่นและออกมาสวยงามจนเป็นเอกลักษณ์
รูปลักษณะช้างก็มีความหลากหลาย จนตอนนี้มีอยู่ประมาณกว่า 20 แบบ เพราะจะดีไซน์และผลิตแบบใหม่ออกมาเป็นประจำทุกปี และที่สำคัญต้องทำออกมาให้ดูเสมือนจริงและเป็น 3 มิติทั้งมุมบน มุมล่าง หรือด้านข้าง ซึ่งต้องอาศัยการลงลึกในรายละเอียดด้วยวิธีการเย็บ จึงทำให้เป็นชิ้นงานที่แตกต่างจากเจ้าอื่นชัดเจน และทั้งหมดนี้คือข้อดีที่เริ่มต้นทำตั้งแต่ออกแบบดีไซน์ กำหนดลายผ้า กำหนดสี ขึ้นแบบ และตัดเย็บเองในที่เดียว”
ส่วนหนึ่งที่ทำให้ผลิตชิ้นงานออกมาโดนใจและตอบโจทย์ลูกค้าได้อย่างดี ก็เพราะโชคดีที่ คิง เพาเวอร์ ให้โอกาสไปพบพนักงานขายสินค้าอยู่ตลอดเวลา ซึ่งเป็นผลดีกับเรามากเพราะทำให้ได้ข้อมูลเกี่ยวกับลูกค้าโดยตรงว่าชอบหรือไม่ชอบสินค้าประเภทไหน ชอบหรือไม่ชอบโทนสีไหนเป็นหลัก แล้วจะได้นำกลับมาออกแบบผลิตสินค้าเหมือนตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้โดยตรงหรือ Make to order ซึ่งทำให้สินค้าที่ผลิตมาออกขายได้ไวไม่มีค้างสต็อกนาน
ภูมิใจเหมือนเป็น “ตัวแทน” ประเทศไทย
ถึงวันนี้ภูมิใจกับผลที่เกิดขึ้นมากเพราะได้เห็นสินค้าแบรนด์เรากลายเป็นของฝากหรือของขวัญที่บินข้ามน้ำข้ามทะเลไปอยู่ที่ต่างๆ ทั่วทุกมุมโลก เหมือนเป็นแบรนด์ที่เป็นตัวแทนของประเทศไทยไปแล้ว ใครเห็นช้างหรือช้างชกมวยไทยของเราก็รู้ว่านี่คือมาจากประเทศไทย
“รู้สึกขอบคุณตัวเองที่ตัดสินใจรับโอกาสนี้ต่อ ยอมรับว่าตอนนั้นเป็นการเริ่มต้นแบบติดลบที่เดิมเป็นเพียงมนุษย์เงินเดือน ที่อยู่กับงานเอกสารและเครื่องคิดเลข แต่ก็กล้าเรียนรู้และเริ่มต้นใหม่ทั้งหมด และดีใจมากๆ ที่หลายครั้งมีคนจำคาแรกเตอร์ผลิตภัณฑ์ช้างของเราได้แม้เป็นการรับจ้างผลิตให้กับองค์กรหรือหน่วยงานอื่น เหมือนเป็นบทพิสูจน์ที่เห็นผลชัดเจนว่า ถ้าเราเริ่มใส่ใจรายละเอียดตั้งแต่ต้นทางเริ่มจากการวางแผน ออกแบบดีไซน์ ทดลองผลิตเป็นชิ้นงานให้ดีก่อนแล้วใส่ใจในรายละเอียดทุกฝีเข็มหรือกระบวนการผลิตชิ้นงานหนึ่งออกมา ผลที่ได้ย่อมออกมาดีแน่นอน”
พร้อมผลิตช้างทุกแบบแต่ต้องคงคาแรกเตอร์เรา
อนาคตก็ยังพัฒนาชิ้นงานให้ตรงกับความต้องการของลูกค้าและมีรูปแบบที่ออกมาให้เลือกมากมาย เพราะหลังจากโควิด-19 มาแล้ว เกิดการเรียนรู้มากมายที่ต้องรู้จักยืดหยุ่นและปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์และบริหารความเสี่ยงมากขึ้น เช่น การรับงานจากหน่วยงานราชการหรือผลิตสินค้าอื่นๆ แต่ทั้งหมดยังต้องคงคาแรกเตอร์ความเป็น “เอเล่เฟ่น ดอลล์” ไว้
“ตอนนี้นอกจากมีแบรนด์ตัวเองแล้ว ก็สามารถรับ Make to order ตามที่ลูกค้าดีไซน์มาให้ เนื่องจากมีทีมดีไซน์ที่สามารถขึ้นแบบตลอดจนมีช่างตัดเย็บเอง โดยที่บอกกับตัวเองและทีมเสมอว่าถึงวันนี้แล้ว ก็ยังต้องไม่หยุดเรียนรู้สิ่งใหม่เสมอ ตอนนี้ก็มีสินค้าให้เลือกมากมายทั้งจาก คิง เพาเวอร์ และหน่วยงานอื่นๆ เช่น หมอนรองคอ ตุ๊กตาช้างยืนและนั่งที่ชกมวย พวงกุญแจ ยางรัดผม ซองใส่สเปรย์แอลกอฮอล์ หน้ากากอนามัยรูปช้าง การทำกระเป๋าสะพายข้างรูปช้าง เป็นต้น”
เชื่อว่าคนเรามีต้นทุนไม่เท่ากัน แต่ไม่ได้สำคัญเท่ากับความอดทนและพยายามที่จะเรียนรู้โดยไม่ตัดโอกาสตัวเอง เพราะแม้ ‘เอเล่เฟ่น ดอลล์’ จะเกิดจากรุ่นพ่อแม่ แต่กว่าจะเป็นทุกวันนี้ก็เริ่มต้นจากคนตัวเล็กที่พร้อมออกพื้นที่ปลอดภัยของตัวเองแล้วนับหนึ่งใหม่ จนสามารถสร้างพื้นที่ใหม่ที่ยังเป็นน่าเป็นตาให้กับประเทศ และยังเป็นของขวัญหรือของฝากให้คนต่างแดนเมื่อได้รับของแล้วก็อดคิดไม่ได้ว่าอยากจะมาเจอช้างน่ารักๆ ที่เมืองไทยสักครั้งหนึ่ง
เอเล่เฟ่น ดอลล์ (ELEPHANT DOLLS)
ที่ตั้ง: 88/16 อริยะ10 ม.2 ต.นราภิรมย์ อ.บางเลน จ.นครปฐม 73130
ข้อมูลสินค้าเพิ่มเติมที่ตลาดพลังคนไทย
คลิก: ELEPHANT DOLLS
สนใจสินค้าพลังคนไทย สามารถหาสนับสนุนได้ที่ คิง เพาเวอร์ ทุกสาขา
ปักหมุดจุดเช็กอิน-แชะรูป-ท่องเที่ยวใกล้เคียง
• ซูเปอร์มาเก็ตกล้วยไม้แอร์ออร์คิดส์ แหล่งท่องเที่ยวที่สามารถเดินชมดอกกล้วยไม้ประเภทต่างๆ แล้ว และยังเป็นแหล่งผลิต ขาย และส่งออกกล้วยไม้ครบวงจรของนครปฐมด้วย เดินเพลินชมเพลินถ่ายรูปสวย
• ดูบัว คาเฟ่ ฟาร์ม สถานที่ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ที่มีกิจกรรมให้ทำกันได้ทั้งครอบครัว มีสระบัวขนาดใหญ่ให้ปั่นเรือถีบ มีจักรยานให้ปั่นเล่น และมีฟาร์มสัตว์ที่มีควายเผือกให้ไปเยี่ยมน้องได้ อีกทั้งเป็นร้านอาหารและคาเฟ่ที่มีมุมให้นั่งชิลล์และถ่ายรูปสวยๆ
• Moo Yoo Rose House อาคารสีขาวหลังใหญ่ ซึ่งเป็นทั้งคาเฟ่ ร้านอาหารสไตล์ Italian Fusion Food และที่พักครบในที่เดียว ตั้งอยู่ริมทะเลสาปที่เขาว่าเป็นจุดชมพระอาทิตย์ลับขอบฟ้าที่สวยแห่งหนึ่งย่านนครปฐม