Product

QUALY ดีไซน์คนไทย
ชวนให้เราคิดถึงโลก ทุกลมหายใจ

วรากร เพชรเยียน 10 Feb 2025
Views: 698

Summary

ทำความรู้จัก ควอลี่ แบรนด์สินค้าคุณภาพดีไซน์ของคนไทยที่ออกแบบมาเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของคนไทยไปพร้อมกับปกป้องโลก ด้วยแนวคิดชิ้นงานดีไซน์ที่มีทั้งฟังก์ชันและเรื่องราว ไอเดียพัฒนาวัสดุรักษ์โลก ชุบชีวิตให้พลาสติกและวัสดุหมุนเวียนออกมาเป็นที่เก็บถุงพลาสติกรูปวาฬ กระถางรูปกระรอก พวงกุญแจนกที่เป็นนกหวีดได้

ดีไซน์ที่มาพร้อมกับความรักษ์โลก และเรื่องราวแรงบันดาลใจเบื้องหลังของสินค้าแต่ละชิ้นคือจุดเด่นที่เรามองเห็นจาก ควอลี่ แบรนด์สินค้าคนไทยที่ต่อยอดจากธุรกิจครอบครัวให้เป็นธุรกิจสินค้าดีไซน์ จนจับใจคนต่างชาติ ถึงขั้นที่เคยมียอดส่งออกสินค้าไปถึงกว่า 50 ประเทศ !

จากการพูดคุยกับ คุณไจ๋ ธีรชัย ศุภเมธีกูลวัฒน์ ผู้อำนวยการฝ่ายออกแบบ Design Director และผู้ก่อตั้ง Qualy แบรนด์สินค้าดีไซน์ของคนไทยที่ออกแบบมาเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิต ผสมผสานกับแนวคิดเพื่อปกป้องโลกและสนับสนุนความยั่งยืน กับเรื่องราวความเป็น ควอลี่ …

เรื่องราวความหมายของ 5 ตัวอักษร ทั้ง Q U A L และ Y เบื้องหลังที่ทำให้ลูกค้าชื่นชอบ ใช้แล้วภูมิใจ…จนไม่อยากปล่อยมือจากของใช้แต่ละชิ้นของแบรนด์

 

QUALY อยู่ที่ Quality

QUALY ชื่อแบรนด์ที่มาจาก คำว่า Quality เพราะคุณภาพสำคัญที่สุด…

กว่าจะมาเป็นควอลี่อย่างทุกวันนี้ เริ่มต้นมาจากไอเดียของคุณไจ๋ที่มองเห็นลู่ทางในการพัฒนาต่อยอดธุรกิจโรงงานผลิตชิ้นส่วนพลาสติกของครอบครัวนำมาสร้างสรรค์ใหม่ ใส่ดีไซน์ให้แตกต่างด้วยความรู้ที่เรียนมาและประสบการณ์การทำงาน ประกอบกับความรู้เรื่องการตลาดของน้องชาย (ทศพล ศุภเมธีกูลวัฒน์ Marketing Director) ควอลี่จึงเริ่มต้นขึ้นในปี พ.ศ. 2547 โดยมีตัวอักษรทั้ง 5 เป็นคำนิยามของแบรนด์

          Q คือ Quality คุณภาพของสินค้า

           U มาจาก Unique ความเฉพาะที่ไม่เหมือนใคร

           A มาจาก Aesthetic การออกแบบรูปทรงให้มันสวยงาม เป็นของใช้และของโชว์ได้

            L มาจาก Long Lasting เราพูดถึงความยั่งยืน

            Y มาจาก You คนที่เป็นกลุ่มเป้าหมาย เราจะออกแบบเพื่อเขาได้ยังไง”

สินค้าแรกที่ควอลี่ ดีไซน์ขึ้นมาเป็นคอลเลกชันเหยือก แก้วน้ำ และถาดรองที่แก้ไข pain point ให้กับลูกค้า ไม่ว่าน้ำจะเย็นแค่ไหนก็ไม่มีไอน้ำเกาะที่ตัวแก้ว วัสดุแข็งแรงทนทาน และตอบโจทย์ชีวิตประจำวันของทุกคน จากไอเดียแรก ควอลี่ค่อยๆ พัฒนาสินค้าและนำเสนอเรื่องราวในหลายแง่มุมที่กระตุกหัวใจคน

 

เรื่องราวที่กระตุกหัวใจคน

กว่าจะได้สินค้ามาแต่ละชิ้น การออกแบบของควอลี่ได้แรงบันดาลใจมาจากหลายทิศทาง แต่ขึ้นอยู่กับองค์ประกอบพื้นฐานทั้ง 3 เป็นสำคัญ ซึ่งสินค้าทุกชิ้นจะขาดข้อไหนไม่ได้เลย

“อย่างแรกคือเรื่องของฟังก์ชัน มายด์เซตของการพัฒนาสินค้า เวลาเราใช้อะไรแล้วติดขัด คนบ่นว่ามันไม่ดี เราจะต้องหาวิธีแก้ด้วย อย่างที่สอง เป็นเรื่องของมุมมองด้านศิลปะ มองเห็นความเป็นรูปฟอร์ม และอย่างที่สามคือ เนื้อหาสตอรี ดีไซน์สามารถที่จะสื่อสารเรื่องราวต่างๆ ได้ ถ้าเรื่องราวมีคุณค่า เป็นเรื่องที่เราอยากสื่อ เราก็จะเอาเรื่องราวมาเปลี่ยนให้เป็นดีไซน์โดยที่เติมฟังก์ชันกับรูปทรง”

สินค้าที่กระตุกต่อมความรู้สึกกลายเป็นจุดเด่นของควอลี่ แต่ละชิ้นให้ความรู้สึกที่หลากหลาย อย่างที่เก็บกุญแจบ้านนก ที่เก็บพวงกุญแจที่ลูกค้าจะไม่หลงลืมวางกุญแจไว้ที่อื่นอีกต่อไป

“เจ้านกเนี่ยอยู่ในบ้านแขวนไว้เฉยๆ มันเป็นของแต่งบ้านนะ แล้วมันจะอยู่ตอนที่เราอยู่บ้าน แต่เวลาออกไปข้างนอก เราก็จะเอานกไปด้วย นอกจากจะเป็นพวงกุญแจแล้วยังเป็นนกหวีดด้วย และเวลากลับมาบ้าน ที่เก็บก็จะอยู่ที่เดิมเสมอก็คือบ้านนก มันสามารถทำอะไรได้หลากหลาย เรียกว่าใช้ทรัพยากรให้คุ้มที่สุด”

สินค้าดีไซน์อื่นๆ ควอลี่ยังนำเอาสตอรีเรื่องสิ่งแวดล้อมมาผสมผสานกระตุ้นความรู้สึก อย่างเช่น กระถางต้นไม้กระรอกที่ใช้แนวคิด Self  Watering ด้วยการให้เชือกดูดน้ำจากด้านล่างขึ้นไปเลี้ยงต้นไม้ และมี  กิมมิกที่การเติมน้ำด้านข้าง ตัวกระรอกลอยอยู่ด้านบนน้ำเพื่อแสดงปริมาณน้ำในกระถาง นอกจากนี้ยังมีที่เก็บถุงพลาสติกรูปวาฬ Moby ที่ทำจากวัสดุรีไซเคิลแต่แข็งแรงทนทาน ช่องสำหรับดึงถุงพลาสติกจะอยู่บริเวณปากของวาฬเพื่อสะท้อนปัญหาพลาสติกในมหาสมุทร

ฮีโร่ไม่จำเป็นต้องใส่ผ้าคลุม

จากงานดีไซน์ อีกหนึ่งอย่างที่ทำให้ควอลี่แตกต่างจากแบรนด์อื่นๆ คือความใส่ใจสิ่งแวดล้อม หยิบเรื่อง Sustainable มาเชื่อมโยงกับการผลิตสินค้า “ส่วนหนึ่งเราผลิตชิ้นงานพลาสติกมันมี pain point ของการทำงานว่าพลาสติกมันไม่ Eco-Friendly เป็นขยะที่สร้างความเดือดร้อน เลยเป็นที่มาว่าเราจะทำยังไงให้ไปลดความเดือดร้อนและกลายมาเป็นสิ่งที่ดีงามแทน ก็เลยใช้การออกแบบจากขยะ คือไปลดปริมาณขยะ แล้วก็ไม่ใช้พลาสติกใหม่และพยายามสื่อสารให้ลดการบริโภค”

วัสดุพลาสติกสำหรับนำมาทำใหม่ ทางควอลี่ก็ได้มาจากหลายๆ ทาง เข้าร่วมกับองค์กรที่สนับสนุนด้านสิ่งแวดล้อม มูลนิธิ และสื่อสารเพื่อรับพลาสติกจากผู้บริโภค “เราเข้าไปร่วมมือกับองค์กรต่างๆ ที่เขาจัดการเรื่องขยะพลาสติกประเภทต่างๆ อย่างเช่น โครงการวนคือการรับขยะพลาสติกประเภทยืด หรือร่วมมือกับทาง EJF (มูลนิธิความยุติธรรมสิ่งแวดล้อม) ที่มีโครงการทะเลปลอดเศษอวน ซึ่งร่วมมือกับชาวประมงในการติดต่อให้ซื้อขายผ่านทางมูลนิธิฯ หรือติดต่อกับกลุ่มชุมชนที่เขาเก็บขยะไว้ก็จะเป็นอีกแหล่งวัตถุดิบ” นอกจากนี้ยังมีการเปิดรับพลาสติกประเภทที่ขายไม่ได้แล้วจากผู้บริโภคและนำเศษพลาสติกจากการผลิตในโรงงานของควอลี่ เพื่อนำกลับมารีไซเคิลใหม่อีกครั้ง

แม้ว่าควอลี่จะมุ่งนำพลาสติกมาชุบชีวิตใหม่ แต่ก็ยังคำนึงถึงเรื่องความปลอดภัยเป็นสำคัญ ซึ่งแต่ละชิ้นงานก็มีสัดส่วนที่แตกต่างกัน “อย่างแรกเราต้องดูเรื่องฟังก์ชันความปลอดภัย เช่น ถ้าเป็นของที่สัมผัสกับอาหารโดยตรง อันนี้ยังไม่สามารถที่จะใช้พลาสติกรีไซเคิลทั่วไปได้ เราก็จะใช้พลาสติกอีกแบบหนึ่ง ส่วนตรงด้ามจับที่ไม่ได้สัมผัสกับน้ำก็จะใช้เป็นแบบวัสดุรีไซเคิลร้อยเปอร์เซ็นต์”

การชุบชีวิตวัสดุรีไซเคิลไม่ได้ส่งผลถึงความคงทนของสินค้า เพราะแต่ละชิ้นควอลี่เลือกหยิบข้อดีของวัสดุมาใช้กับงานดีไซน์ เน้นการออกแบบให้มีสีสันสดใส เลี่ยงการใช้สีขาวที่อาจดูเก่าง่าย และสนับสนุนให้ลูกค้ามีส่วนให้เกิดการหมุนเวียนวัสดุและเปลี่ยนสินค้าได้

“ส่วนใหญ่มักจะจบที่สินค้าขายได้แล้ว สมมติว่าเอาไปใช้แล้วจะเอามาซ่อม บริษัทก็ไม่อยากซ่อม เขาจะอยากให้คุณซื้อใหม่มากกว่า เราใช้เวลาเพิ่มขึ้นเพื่อคิดว่าจะออกแบบให้สามารถถอดชิ้นส่วนแยกกันไป       รีไซเคิลง่ายๆ ได้ เราคิดขึ้นมาเพื่อเพิ่มความยั่งยืน”

เป็นแนวคิดที่ทำให้เราคิดว่า บางทีการเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยโลกอาจไม่ยากอย่างที่คิด เพียงแค่เริ่มจากการเป็นผู้บริโภคที่เลือกคนผลิตที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม

 

ส่งออกดีไซน์ไทยที่เต็มไปด้วยควอลี่ (ตี้) สู่ต่างชาติ

จากสินค้าที่มีเรื่องราว ฟังก์ชันที่สะท้อนแนวคิดความยั่งยืนและปกป้องโลก ยังมีสินค้าที่ทางควอลี่นำมาร่วมวางจำหน่ายกับ คิง เพาเวอร์ คือฝาแจกันทำจากวัสดุรีไซเคิล ที่สามารถนำมาปรับเข้ากับขวดแก้วที่เป็น single-use และไม่ค่อยมีโอกาสนำมารีไซเคิล ด้วยการ reuse ให้เป็นแจกันดอกไม้ ลูกค้ามีโอกาสได้สนุกกับการออกแบบ หรือนำมาแมตช์เข้ากับขวดน้ำหอมก็ได้

“คิง เพาเวอร์ มีกลุ่มลูกค้าที่เป็นต่างชาติอยู่เยอะ เป็นนักท่องเที่ยวและชาวต่างชาติ เขาจะได้มีโอกาสเห็นประเทศไทยในอีกมุมหนึ่งที่เป็นงานดีไซน์ นอกเหนือจากอะไรที่เป็นแบบไทยๆ เห็นว่าประเทศไทยมีงานออกแบบที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อมด้วย นอกจาก PM 2.5 หรือขยะในทะเล ประเทศเราก็แอ็กทิฟในเรื่องพวกนี้ด้วยเช่นกัน”

สินค้าของควอลี่เคยถูกส่งออกสู่ต่างประเทศกว่า 50 ประเทศ พางานดีไซน์คนไทยออกสู่สายตาชาวต่างชาติ อย่างฝั่งยุโรป อิตาลี ฝรั่งเศส กลุ่มแถบสแกนดิเนเวีย สหรัฐอเมริกา นอกจากนี้ยังมีฝั่งเอเชียอย่างญี่ปุ่น เกาหลี และไปถึงออสเตรเลียด้วย ในขณะเดียวกันคนไทยก็ยังเป็นกลุ่มลูกค้าใหญ่และยังมีการร่วมงานกับองค์กรต่างๆ ด้วย

ความพิเศษที่เป็นเครื่องการันตีงานดีไซน์และแนวคิดของควอลี่ คือสองรางวัลที่เคยได้รับ ได้แก่ Thailand Green Design Award (สิงหาคม ปี 2024) ที่พูดถึงการออกแบบที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และ Demark Award (กรกฎาคม ปี 2024) รางวัลของคนที่ตั้งใจผลักดันวงการดีไซน์ในประเทศไทยและยังเป็นที่ยอมรับในระดับสากลด้วย

เมื่อพูดถึงงานดีไซน์ โดยเฉพาะงานดีไซน์ที่มีทั้งรูปลักษณ์สวยงาม ฟังก์ชัน และเรื่องราว สินค้าเลียนแบบก็ตามมา คุณไจ๋ก็มีมุมมองในเรื่องนี้เช่นกัน

“ถ้าในมุมนักออกแบบมองก็อาจจะรู้สึกว่า ของๆ เรามันคงจะดี เขาถึงเลียนแบบ แต่พอขยับมามองในมุมธุรกิจก็อาจจะรู้สึกว่าเราสูญเสียรายได้จากการที่คนไปซื้อของเลียนแบบ แต่จะไปห้ามมันก็คงยากมาก เราอาจจะต้องมองว่าสิ่งที่เราจะสร้างต่อไปนี้ มันควรจะเป็นประโยชน์แม้ว่าจะถูกทำเป็นของก๊อบปี้ก็ตาม เป็นแนวคิดที่เราพยายามจะสร้างสิ่งที่ควรค่าแก่การถูกก๊อบปี้

 

หลังจากเราพูดคุยเรื่องราวของควอลี่อยู่นาน ก็เข้าใจว่า ทำไมแบรนด์คนไทยแบรนด์นี้ถึงได้น่าสนใจกว่าแบรนด์ไหนๆ คงเพราะทุกๆ แง่มุมของสินค้ามีเรื่องราวชวนให้เราอินอยู่เสมอ ยิ่งเมื่อผนวกกับดีไซน์และฟังก์ชันแล้วก็ไม่น่าแปลกใจเลยที่เป็นแบรนด์ที่ได้รับรางวัลและส่งออกไปในหลายประเทศ เป็นแบรนด์คนไทยที่น่าชื่นชมและน่าหยิบยกเป็นแบบอย่างในวงการดีไซน์จริงๆ

 

ควอลี่ (QUALY)

ที่ตั้ง: บริษัท นิว อาไรวา จำกัด 131 ซอยเจริญราษฎร์  7 แยก 7 แขวงบางโคล่ เขตบางคอแหลม กรุงเทพฯ 10120

 

ข้อมูลสินค้าเพิ่มเติมที่ตลาดพลังคนไทย

คลิก: QUALY

 

สนใจสินค้าพลังคนไทย สามารถสนับสนุนได้ที่ คิง เพาเวอร์ ทุกสาขา

 

ปักหมุดจุดเช็กอิน-แชะรูป-ท่องเที่ยวใกล้เคียง

• เอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ ฟรอนต์ แลนด์มาร์กสำคัญของกรุงเทพฯ ไปเที่ยวชิมความสวยงาม กิน ดื่มอาหารอร่อย ชมตะวันตกดินริมแม่น้ำเจ้าพระยา

• Calypso Cabaret การแสดงสุดตราตรึงใจ ปล่อยใจไปกับแสงสีเสียง เหมาะแก่การชวนเพื่อนและครอบครัวมาชมการแสดง ที่เอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ ฟรอนต์

• วัดวรจรรยาวาส วัดราษฎร์สังกัดคณะสงฆ์ฝ่ายมหานิกาย ริมแม่น้ำเจ้าพระยา เข้าไปสักการะพระพุทธรูปปางนาคปรก นอกจากนี้ยังมีบุษบกธรรมาสน์ในศาลาการเปรียญวัดวรจรรยาวาล โดยฝีมือช่างสมัยกรุงศรีอยุธยา

Author

วรากร เพชรเยียน

Author

อดีตแอร์โฮสเตสผันตัวมาเป็นนักเขียน ผู้หลงใหลศิลปะและการเดินทาง นิยมการบอกรักประสบการณ์ผ่านตัวหนังสือ

Web Editor

ปิ่นอนงค์ วัชรปาณ

Web Editor

บรรณาธิการเว็บ Thaipower.co อดีตบรรณาธิการบางสำนัก นักข่าวและคอลัมนิสต์จำเป็น โกสต์ไรเตอร์...ผู้รักการเดินทาง หลงใหลกลิ่นกาแฟ และเป็นมูฟวีเลิฟเวอร์