“เมื่อก่อนคุณทวดพรหมมา ขุนพิลึก เคยทำงานป่าไม้ มีความรู้เรื่องสมุนไพรก็ใช้รักษาผู้คน มีคาถากำกับด้วยนะ” คุณษา – เอษา สีสุขสาม เจ้าของพรหมมาสมุนไพร (PROMMA HERBS) ที่ว่ากันด้วยเรื่องของ “ผม” กันเป็นหลักเปิดบทสนทนา เราก็ตื่นเต้นสิครับ เรื่องแบบนี้เคยมีอยู่จริงด้วยเหรอ!!
แต่ด้วยการพิสูจน์จากตนเองและคนในครอบครัวว่าได้ผล ก็พยายามผลักดันให้กลายเป็นธุรกิจ “สมัยคุณทวดเขาไม่เจอสารเคมีเลย ใช้แค่ใบย่านางกับน้ำซาวข้าวมาสระผมแทนแชมพู คนรุ่นนั้นบางคนไม่มีผมหงอกเลยนะ” ทุกวันนี้สูตรสมุนไพรอายุกว่า 150 ปี ก็ได้เดินทางไกลไปทั่วโลก ผ่านร้านค้าของ คิง เพาเวอร์ ตอบเทรนด์โลกที่หวนกลับสู่ธรรมชาติ
แต่จะมีคาถากำกับมาด้วยไหม…อันนี้ไม่แน่ใจ
สมุนไพรในมือหมอเทวดา
คุณทวดพรหมมาเลิกทำงานป่าไม้จากนครสววรรค์ ย้ายถิ่นฐานมาที่จังหวัดอุทัยธานี ได้ใช้ความรู้เรื่องสมุนไพรมารับบทใหม่เป็นหมอประจำหมู่บ้าน “ท่านประยุกต์ใช้สมุนไพร ตำรับที่สืบทอดกันมาราว 150 ปี เพื่อรักษาอาการเจ็บป่วยให้ชาวบ้านโดยไม่เรียกเก็บเงิน หลายคนเรียกท่านว่าหมอเทวดาเลยนะ”
น่าจะพอรู้กันอยู่บ้างว่าจังหวัดอุทัยธานีมีพื้นที่ป่าเยอะ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่-ห้วยขาแข้งที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกก็มีพื้นที่ครอบคลุมถึงจังหวัดนี้ สมุนไพรทั้งที่อยู่ในป่าและที่ขึ้นตามบ้านผู้คนมีไม่น้อย ภูมิปัญญาของคนโบราณเรื่องการแพทย์ก็ไม่น้อยหน้าตำรับยาทันสมัย ยังไม่ต้องพึ่งคาถาอาคมก็เชื่อในสรรพคุณได้แน่นอน
“พี่อ้น – วรินทร์อร จันทร พี่สาวอีกคนหนึ่งที่เริ่มทำพรหมมาสมุนไพร เธอมีปัญหาเรื่องผมและหนังศีรษะ อ้นเนี่ยทันได้คลุกคลีอยู่กับคุณทวดมาก่อน พอมีปัญหาก็เลยคิดว่าทำไมไม่ลองใช้ยาของคุณทวดดูล่ะ ก็เลยนำใบย่านางกับน้ำซาวข้าวมาหมักผมแบบดั้งเดิมเลย ปรากฏว่าดีขึ้นมาก เลยคิดว่าน่าจะทำให้คนอื่นได้ใช้ด้วย”
เริ่มด้วยวิถีดั้งเดิมของคุณทวดที่ใช้น้ำซาวข้าวกับใบย่านางมาคั้นให้เป็นน้ำเหนียวๆ ใช้ทั้งสระผมและหมักทิ้งไว้ประมาณ 10 นาที ก่อนจะล้างออก ผสานวิธีสมัยใหม่ให้เป็นแชมพูที่ใช้ง่ายขึ้น ไม่ต้องมาเก็บสมุนไพรมาคั้นน้ำกันทุกครั้งก่อนสระผม แล้วแจกจ่ายให้คนใกล้ตัวลองใช้ รวมทั้งขายในวงแคบๆ เพื่อพิสูจน์ว่าตำรับคุณทวดดีจริงหรือไม่
ลองใช้กันอยู่นานพอดู เพราะสมุนไพรจะให้เห็นผลทันตาคงเป็นไปไม่ได้
Suggestion
คุณค่าใกล้ๆ ตัว
“เราเริ่มประมาณปีพ.ศ. 2552 ช่วงนั้นยังมีแชมพูสมุนไพรไม่มากนัก โซเชียลมีเดียก็ยังไม่มีอิทธิพลเท่าตอนนี้ ตอนแรกๆ ยังเป็นวิสาหกิจชุมชนแล้วไปจดทะเบียน OTOP เรียนรู้ใหม่กับพัฒนาชุมชนเลย ว่าต้องทำยังไง สร้างโรงเรือนยังไง”
สมุนไพรเกือบทั้งหมดเป็นของในอุทัยธานีเอง ชาวบ้านเขาปลูกกันไว้เป็นปกติอยู่แล้ว อย่าง “ย่านาง” มีคุณสมบัติเป็นยาเย็นช่วยบำรุงเส้นผม ลดอุณหภูมิในร่างกายที่ร้อนเกินกว่าปกติ ยิ่งมารวมกับน้ำซาวข้าวก็ช่วยบำรุงฟื้นฟูหนังศีรษะได้ดี สมุนไพรที่เป็นยาเย็นอีกชนิดหนึ่ง คือ “ใบหมี่” ถ้าเอามาขยี้กับน้ำจะเป็นฟองเหนียวๆ ลื่นๆ ช่วยให้ผมไม่กระด้าง รักษาการอักเสบ “ประคำดีควาย” ตัวนี้ทำให้เกิดฟอง แต่อาจทำให้ผมแห้งได้ ต้องใช้ร่วมกับสมุนไพรชนิดอื่นๆ
ถ้ามีปัญหาผมหงอก “เทียนกิ่ง” ช่วยลดการอักเสบของผิวและฆ่าเชื้อได้ดี ส่วน “กะเม็ง” ช่วยชะลอการเกิดผมหงอก ถ้านำกะเม็งสดมาขยี้จะออกมาเป็นสีน้ำตาลเลย ใช้ทั้งกิ่ง ก้าน ใบ ดอก เพื่อเปลี่ยนสีผมช่วยป้องกันผมไม่หงอก และก็มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อราบนหนังศีรษะได้ด้วย
“ผลิตภัณฑ์ของเราไม่แต่งสีแต่งกลิ่น ไม่มีสารอะไรอื่นเลย ใช้การผสมสมุนไพรหลายๆ ชนิดเข้าด้วยกัน อย่างโทนิคปลูกผม ใช้สมุนไพรทั้งหมด 16 ชนิด ทำด้วยกรรมวิธีโบราณนะคะ เราใช้เหล้าต้มจากข้าวเหนียวในการสกัดสมุนไพร ไม่ใช้แอลกอฮอล์จากโรงงาน เป็นสูตรลับค่ะ” บอกตรงนี้คงไม่ลับแล้วล่ะ!
แต่พรหมมาสมุนไพรก็ไม่ได้ปกปิดตำรับไว้คนเดียว ยังเคยไปออกรายการโทรทัศน์สอนคนใช้สมุนไพรในการดูแลตัวเอง แบบไปหาทำที่บ้านได้ เพราะเชื่อว่าเรื่องเหล่านี้ควรได้รับการสืบทอด
เริ่มต้นจากแชมพูและโทนิคไม่กี่สูตร ตอนนี้พรหมมาสมุนไพร มีทั้ง แชมพู ครีมนวด ทรีตเมนต์ โทนิค สมุนไพรย้อมผมและเซรั่มบำรุงผม พร้อมศูนย์บริการที่คอยดูแลให้คำปรึกษาอีกหลายแห่ง และแม้จะไม่ได้เป็นวิสาหกิจชุมชนแล้ว แต่สมุนไพรที่ใช้ในกระบวนการผลิตก็ยังรับซื้อมาจากชาวบ้านอุทัยธานี สร้างอาชีพสร้างรายได้ให้ชุมชนอย่างที่เคยทำมา
Suggestion
พลังภูมิปัญญาไทยสู่สากล
“เราออกงาน OTOP ที่เมืองทองมาตั้งแต่แรกเลย มีคนสนใจเยอะมาก เพราะว่าเป็นของแปลกใหม่ในตอนนั้น ครั้งแรกเราเตรียมสินค้าไปไม่เยอะมาก พี่อ้นต้องขึ้นลงกรุงเทพฯ-อุทัย 4-5 รอบ เพื่อเอาของไปขาย มีลูกค้ามายืนรออยู่หน้าบูท แล้วก็เดินมาก็หยิบๆ เราต้องใช้คนขายถึง 5 คน”
คุณษาไม่ใช้การโฆษณาเกินจริง แต่ใช้วิธีบอกสรรพคุณเท่าที่ผลิตภัณฑ์ของเธอมี ถ้าลูกค้าอยากได้แบบที่มีคุณสมบัติมากกว่าที่ผลิตภัณฑ์ของเธอมี ก็จะแนะนำด้วยความยินดีให้ลูกค้าลองศึกษาจากแบรนด์อื่นก่อนได้ เพราะไม่อยากให้ลูกค้าผิดหวัง
“เรามีโอกาสเข้าอบรมสัมมนากับ คิง เพาเวอร์ แล้วจากนั้นทาง คิง เพาเวอร์ก็ติดต่อมาให้นำสินค้าเข้าไปวางขาย ก็ขายดีมาตลอดนะคะ นักท่องเที่ยวต่างชาติก็นิยม โดยเฉพาะชาวจีน แต่มีช่วง Covid-19 นี่ล่ะที่เราไม่ได้ออกบูทเลย ยอดขายก็ตกลงมาราว 70 เปอร์เซ็นต์ เราก็เลยปรับตัวพยายามเข้าสู่ระบบออนไลน์ให้มากขึ้น”
แต่กระนั้นก็ยังไม่นับว่าเป็นช่วงวิกฤต ไม่มีอาการท้อแท้ เพราะเขาเร่งการขายจนสามารถคืนทุนแล้วในปีแรกๆ ช่วงหลังมานี้เป็นการใช้กำไรมาเป็นต้นทุนในการผลิต ก็แล้วเปิดธุรกิจอีกหลายอย่าง เช่น เรื่องผ้าไทย ผลิตภัณฑ์ล้างมือต้านเชื้อ Covid-19 ช่วยพยุงธุรกิจกันไปได้ ด้วยตั้งใจว่าจะไม่หยุดทำงานสมุนไพร เพราะอยากให้ตำรับยาภูมิปัญญาคุณทวดได้ช่วยแก้ปัญหาสุขภาพของผู้คนต่อไป
เรื่องนี้การบริหารธุรกิจและกลยุทธทางการตลาดคงสำคัญกว่า “คาถาอาคม” แล้วล่ะครับ
PROMMA HERBS
ที่ตั้ง : 252,252/1,252/2 หมู่ 6 ต.ทัพหลวง อ.บ้านไร่ จ.อุทัยธานี 61140
Website: PROMMA HERBS
ข้อมูลสินค้าเพิ่มเติมที่ตลาดพลังคนไทย
คลิก: PROMMA HERBS
สนใจสินค้าพลังคนไทย สามารถสนับสนุนได้ที่คิง เพาเวอร์ทุกสาขา
ปักหมุดจุดเช็กอิน–แชะรูป–ท่องเที่ยวใกล้เคียง
• หุบป่าตาด บุกไปถ่ายรูปกันที่ถ้ำในเขาหินปูน ใน อ.ลานสัก ที่เมื่อเดินฝ่าความมืดเข้าไป ด้านในเปิดโล่งเป็นหุบขนาดใหญ่กลางภูเขา มีป่าโบราณซุกซ่อนตัวอยู่ภายในมีพันธุ์ไม้หายาก โดยเฉพาะต้นตาด พืชตระกูลปาล์มที่ขึ้นเองตามธรรมชาติเท่านั้น พร้อมสัตว์ไฮไลท์ “กิ้งกือมังกรสีชมพู” พบเห็นได้แค่ช่วงปลายฝนต้นหนาวของทุกปี
• ตลาดเช้าริมแม่น้ำสะแกกรัง เป็นตลาดในตัวเมืองที่ยังมีเรื่องราวเดิมๆ บรรยากาศชิลๆ ในอดีตให้เราได้ซึมซับ ตื่นเช้าตรู่จะทันตักบาตร หากมาสายหน่อยอาหารเช้าในตลาดยังคงมีให้ชิม พร้อมชมความสวยงามของแม่น้ำสะแกกรัง แหล่งท่องเที่ยวที่มีเรือนแพให้พักตลอดแนว สายสโลว์ไลฟ์ได้ใช้ชีวิตช้าๆ สมใจแน่นอน
• ฝายกั้นน้ำปางสวรรค์ แม้จะเป็นฝายกั้นน้ำเล็กๆ ใน อ.บ้านไร่ แต่มีจุดน้ำล้นที่ไหลลงมาเป็นสาย มองเผินๆ คล้ายม่านน้ำตก ท่ามกลางต้นไม้เขียวชอุ่ม ชาวโซเชียลจึงนิยมไปถ่ายภาพเพื่ออวดกันเป็นประจำ
