Product

ชุบชีวิตผ้าขาวม้า บ้านไร่ ผลิตในไทย
โดนใจไทยและเพื่อนต่างชาติ

ม.ล.จินดาภรณ์ ชยางกูร 5 Nov 2021
Views: 2,237

ผ้าขาวม้าผ้าไทยลวดลายสากล ที่ถูกใช้ได้ในสารพัดประโยชน์ เส้นที่ลากกันเป็นลายตาราง แม้มีขนาดของลายต่างกันไปตามความนิยมในท้องถิ่นนั้น แต่ใครเห็นก็เอ่ยออกมาเป็นชื่อเดียวกัน และผ้าขาวม้าไทยก็มีพัฒนาการในจังหวะของตัวเอง

อย่างที่กลุ่มวิสาหกิจผ้าทอขาวม้า บ้านไร่ จังหวัดราชบุรี Impani Pa-Kao-Ma ผสมเอกลักษณ์ดั้งเดิมของผ้าขาวม้าให้ดูน่าใช้ด้วยดีไซน์และสีสันใหม่ๆ ไม่ล้าสมัยอย่างที่เคยเข้าใจกัน ‘IM’ ย่อสั้นๆ มาจาก Impossible ที่แปลว่า เป็นไปไม่ได้ ส่วน Pani หรือปานิในภาษาไทยคือ ฝ่ามือ หรือภาษาบาลีแปลว่า น้ำ พอมารวมกัน ‘Impani’ ตั้งใจจะทำสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ให้เป็นไปได้ด้วยมือของพวกเขาทุกคน

ก่อนจะมาเป็นอิมปานิ กลุ่มคนในครอบครัวและชุมชนใช้ชื่อผ้าขาวม้า บ้านไร่ จังหวัดราชบุรีมาก่อน ทอกันเป็นกลุ่มเล็กๆ แล้วถึงจะมาเปลี่ยนในไม่กี่ปีถัดมา

 

จากกี่กระตุกไม่กี่ตัว

ยิ่งใช้ยิ่งนิ่ม เป็นเอกลักษณ์ผ้าขาวม้าบ้านไร่ ของราชบุรีครับคุณเอกสิทธิ์ โกมลกิตติพงศ์ ทายาทรุ่นที่ 3 ของแบรนด์อิมปานิเล่าถึงจุดเด่นที่เป็นที่มาซึ่งถูกพัฒนาต่อไปในรุ่นของเขา ตั้งแต่เทคนิคการผลิตในรุ่นคุณปู่ที่ทำให้ผืนผ้ายิ่งนำไปซักด้วยน้ำบ่อยเท่าไร ก็จะยิ่งทำให้เกิดความนิ่มขึ้นในทุกครั้ง เขาเลยลองทางลัดพัฒนาโครงสร้างผ้าแบบใหม่ ให้นิ่มตั้งแต่ก่อนใช้ และยิ่งใช้ยิ่งนิ่มกว่าเดิม

ในยุคแรกของการทอผ้าขาวม้า บ้านไร่ จังหวัดราชบุรี ช่วงปีพ.. 2518 กี่กระตุก คือ อุปกรณ์หลักของพวกเขา เมื่อยิ่งทำก็ยิ่งเป็นที่นิยม กี่กระตุกไม่กี่ตัว ผลิตไม่พอก็เลยมีการนำเอาเครื่องจักรเข้ามาใช้และกลายเป็นโรงงานเมื่อปีพ.. 2522พอถึงรุ่นผม ผ้าขาวม้าก็เริ่มไม่เป็นที่นิยมเท่าไรแล้วคุณเอกสิทธิ์ก็เลยปรับตัวอีกครั้งด้วยการออกแบบลวดลายใหม่ๆ รวมถึงสีสันจากเดิมที่ใช้สีหลัก อย่างแดง กรมท่า ดำ ขาว เขียวง่ายๆ เพิ่มเฉดสีเข้าไปให้รู้สึกสนุกขึ้น

แต่ด้วยความคุ้นเคยของลูกค้าบางกลุ่มที่รู้สึกว่าผ้าขาวม้าก็ควรจะมีสีอย่างที่เคยเป็นมา โทนสีใหม่ๆ เลยเหมือนเป็นการไปเปิดตลาดกลุ่มลูกค้าใหม่ๆ และต่างชาติแทนโทนสีที่อ่อนลงนี้เกิดจากบางทีเราย้อมแล้วได้โทนสีแดงที่อ่อนลงกลายเป็นชมพูเขาก็เลยหยิบเอาสีที่เพี้ยนไปนี้ มาจับคู่กับอีกสีให้ได้ความแปลกใหม่ ไม่ซ้ำใคร

ที่มาที่ไป จากชาวไร่สู่ชีวิตประจำวัน

น้อยคนอาจจะรู้ว่า ผ้าขาวม้าไม่ได้หมายถึง ผ้าสีขาวลายม้าหรือสีม้า แต่มาจากคำว่า Kamar Band อ่านว่า “กะมัรบันด์” ภาษาเปอร์เซีย ที่มีความหมายว่า พันเอว (กะมัร แปลว่าเอว และบันด์ แปลว่า พัน) บวกกับภาพที่คุ้นตาของการนำผ้าลายตารางโทนสีจัดจ้านนี้ไปพันเอาไว้รอบเอว หรือบางทีพาดบ่า เพราะหยิบจับทำกิจกรรมอะไรก็ง่ายและสะดวกไปหมด

“พอเรามาบุกตลาดลายผ้าใหม่ ก็เลยแปรรูปผ้าผืนเป็นกางเกงเล แล้วเสื้อผ้าแบบอื่น ของใช้อื่นๆ ก็ตามมา” จากผืนผ้าธรรมดาก็เกิดเป็นไอเดียที่สร้างความต่าง ให้ใช้ง่าย ใส่ง่าย นี่แหละจุดขายที่ทำให้อิมปานิเป็นที่รู้จักทั้งในและต่างประเทศ

ด้วยความที่ไม่อยากให้จำกัดว่าผ้าขาวม้าต้องอยู่ในนา ในไร่ หรือใช้สำหรับคนบางกลุ่มเท่านั้น แต่ทุกคนต้องใช้ได้เหมือนกัน อันดับแรกคนไทยต้องได้ใช้มันไปตามคาแร็กเตอร์ของแต่ละคนได้เช่นเดียวกับผ้าลวดลายอื่นๆ

 

 

บอกลาความล้าสมัยไปได้เลย

เพราะปัจจุบันแบรนด์อิมปานิ ไม่ได้มีเพียงคู่ค้าในประเทศไทย แต่ต่างประเทศเองก็นิยม ไม่เพียงแต่ผ้าขาวม้า ญี่ปุ่นกับแบรนด์อิมปานิเองก็มีความสัมพันธ์อันดี ถึงกับเป็นหนึ่งในอินสไปเรชั่นในการทดลองโทนสีใหม่ๆ ส่วนความไม่ซ้ำใครทั้งสีและลวดลายก็มีวางขายที่ คิง เพาเวอร์ ดิวตี้ฟรี เพื่อเปิดโอกาสให้คนไทยและชาวต่างชาติที่มาเที่ยวเมืองไทยได้หาซื้อได้ง่ายและสะดวก

เมื่อเริ่มกลับมาเป็นที่นิยม จึงมีการผลิตผ้าขาวม้ากันมากขึ้นหลายแหล่งอิมปานิพร้อมการันตีเรื่องของคุณภาพ มีบ้างบางครั้งที่ทางเราออเดอร์เต็มผลิตไม่ทัน คู่ค้าต้องไปหาเจ้าอื่นบ้าง แต่เขาก็กลับมาเพราะเชื่อในคุณภาพของเราจริงๆคุณเอกสิทธิ์บอกเล่าเกี่ยวกับเอกลักษณ์เล็กๆ ของผ้าขาวม้าว่าเรียกเป็น 1 กุลี ไม่ใช่ผืน หน้ากว้างมาตรฐาน 90 เซนติเมตร และควรจะซับน้ำได้ดี แห้งไว ตากได้ในที่ร่ม ไม่เกิดเชื้อรา 

อีกหนึ่งอุปสรรคของงานฝีมือในช่วงเวลาที่ผู้บริโภคต้องเลือก ของกินขายง่ายกว่าของใช้ความยากของงานฝีมือ คือต้องมีความเข้าใจ ซึ่งอยากให้เกิดขึ้นในประเทศก่อนครับเพราะแน่นอนว่าการส่งสินค้าออกไปมีค่าใช้จ่ายสูงเราเองก็พยายามสร้างความเข้าใจ เพื่อทำให้ทั้งผู้ใช้และผู้ผลิตมีความภูมิใจในผลิตภัณฑ์ในประเทศ และคนไทยก็จะมีอาชีพต่อไปได้

หน้ากากผ้าขาวม้า สินค้าตอบโจทย์แห่งยุค

อิมปานิก็เป็นอีกแบรนด์ที่ผลิตหน้ากากผ้ามาวางขายในช่วงปีที่ผ่านมา หากจะถามว่าผ้าขาวม้าเป็นผ้าที่ได้มาตรฐานในการป้องกันไวรัส Covid-19 หรือไม่ ก็ต้องย้อนกลับไปเล่าถึงช่วงที่ฝุ่น PM2.5 หนาแน่นในเมืองมากๆ หากจะใช้หน้ากากผ้า ผ้าต้องหนาถึง 4 ชั้น เพื่อที่จะกันฝุ่นได้ อิมปานิเลยตัดสินใจทำ 

“เรานำผ้าไปผ่านกระบวนการทำความสะอาด ซักเอาเคมีที่เกิดจากกระบวนการผลิตออกให้หมด ชุมชนเราตั้งใจจะทำให้ได้มาตรฐานเดียวกับโรงงานผลิตหน้ากากอนามัย หน้ากากผ้าขาวม้าของเรานำผ้ามาวางซ้อนกัน 4 ชั้นและเย็บติดกันเป็นหน้ากากผ้าที่สามารถนำไปซักและกลับมาใช้ใหม่ได้” ส่วนหากจะป้องกันไวรัส Covid-19 ได้ดีที่สุดแนะนำให้ใส่สองชั้น ควบคู่กับหน้ากากอนามัยแบบใช้แล้วทิ้งด้วย

นวัตกรรมผ้าไทยใช้แล้วเย็น

ยังไม่หยุดพัฒนาแค่ความนิ่มของผ้าและสีสันลวดลายที่มีให้เลือกใช้มากขึ้น แต่โครงสร้างและประสบการณ์ขณะใช้ก็เป็นสิ่งที่ถูกให้ความใส่ใจเช่นกัน “เรากำลังพัฒนานวัตกรรมผ้า “Cool Mode” โหมดประหยัดไฟเบอร์ห้า ทำให้ผ้าไม่ต้องซักบ่อย ซัก ตาก แล้วเรียบเลย ยับยาก ดูแลง่าย ถ่ายเทอากาศ ใส่สบาย 

อยากให้คนใช้ผ้าขาวมาแล้วช่วยให้ไม่ต้องอยู่ในห้องแอร์ตลอดเวลา ถ้าเปิดแอร์ก็ไม่ต้องต่ำกว่า 25 องศา เป็นผ้าที่ช่วยประหยัดไฟด้วย 

ความน่าทึ่งในพัฒนาการล่าสุดของผ้าขาวม้า ที่หลายคนเคยเห็นเป็นความเชย แต่เมื่อรู้จักนำมาใช้ หยิบของท้องถิ่นมาพัฒนาให้กลายเป็นความน่าภูมิใจ ใครล่ะจะไม่อยากจะบอกโลกว่า นี่แหละหนึ่งในผ้าไทยที่สะท้อนวิถีชีวิตในทุกยุคที่ผ่านมา จนได้ผ้าที่นิยมกันในทั่วโลก

 

IMPANI

ที่ตั้ง : 20-21 ซอยแม้นรำลึก 4 ตำบลหน้าเมือง อำเภอเมืองราชบุรี ราชบุรี 70000

 

ข้อมูลสินค้าเพิ่มเติมที่ตลาดพลังคนไทย

คลิก: IMPANI

 

สนใจสินค้าพลังคนไทย สามารถสนับสนุนได้ที่คิง เพาเวอร์ทุกสาขา

 

ปักหมุดจุดเช็คอินแชะรูปท่องเที่ยวใกล้เคียง

• ตลาดน้ำ หลายแห่งด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นตลาดน้ำดำเนินสะดวก ตลาดน้ำเหล่าตั๊กลัก เป็นที่ที่ต้องแวะไปใช้เวลาซึมซับวิถีชีวิตของคนราชบุรีริมน้ำ ถ้าจะให้ดีต้องไปเช้าหน่อยจะได้ยิ่งคึกคัก

• วันพระคริสตหฤทัย เหมาะกับคนที่สนใจศิลปะ กระจกสีด้านในสวยงาม และภาพวาดฝาผนังหลังพระแท่นก็ดูน่าทึ่งไม่แพ้ที่ยุโรปเลย

• อุทยานหินเขางู สวนสาธารณะที่พัฒนามาจากแหล่งระเบิดหินและย่อยหินในสมัยก่อน กลายมาเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ใครไปใครมาก็ได้ใกล้ชิดธรรมชาติ ชาร์จพลังเต็มพร้อมเดินทางต่อ

Author

ม.ล.จินดาภรณ์ ชยางกูร

Author

นักเขียนที่ชอบออกไปข้างนอกเพื่อได้กลับบ้าน สนุกกับการฟังมากกว่าพูด และอ่านบันทึกการเดินทางเพื่อทำความเข้าใจโลกและผู้คนจากมุมมองของคนที่หลากหลาย