พวกเขาไม่เคยได้แชมป์มาก่อนเลย เป็นอย่างนั้นเสียจนนั่นแทบจะกลายเป็นความเคยชิน!
แต่เมื่อพวกเขาทุ่มเทฝึกฝนอย่างหนัก… บนสนามมาตรฐาน ที่อาจเรียกว่ามีส่วนช่วยผลักดันให้การเล่นฟุตบอลของทีมโรงเรียนแห่งนี้ “ก้าวหน้า” ยิ่งขึ้นได้ ไม่มากก็น้อยหรือในทางใดก็ทางหนึ่ง หรืออาจเรียกว่าการฝึกทักษะสำหรับนักกีฬาของพวกเขาได้รับการ “ยกระดับ” ความมุ่งมั่นเพิ่มขึ้นไปได้อีกเลเวล
ที่สุดทีมโรงเรียนพังโคนวิทยาคมก็คว้าถ้วยแชมป์ในการแข่งขันฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ‘สิรินธร’ คัพ มาครองได้ด้วยความภาคภูมิใจ
“ไม่ใช่เฉพาะโรงเรียนพังโคนวิทยาคม แต่ทั่วทั้งอำเภอเหมือนได้รับของขวัญอันล้ำค่า” ว่าที่พันตรี สิทธิพงศ์ นาโควงศ์ ที่ปรึกษาทีมฟุตบอลอำเภอพังโคน เอ่ยความรู้สึกอย่างเป็นตัวแทนของคนที่นั่น ด้วยความภูมิใจที่ได้รับมอบสนามฯ ทั้งในฐานะเป็นชาวสกลนคร และยังเป็นผู้ดำเนินการจัดทำเอกสารนำเสนอมาเพื่อรับการคัดเลือกจาก “โครงการสนามฟุตบอลหญ้าเทียม สู่โรงเรียนและชุมชน” ตั้งแต่ในปีแรกของโครงการ
“ผมเขียนโครงการเข้าไปหา… บังเอิญเราถูกรางวัลใหญ่เลยครับ” สำหรับโรงเรียนที่สนามฟุตบอลมาตรฐานมีความหมายสำหรับพวกเขามาก ว่าที่พันตรี สิทธิพงศ์ผู้เป็นครู วิทยฐานะครูชำนาญการพิเศษ หัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้ สุขศึกษา พละศึกษามีความยินดีกว่าใครที่ความมานะบากบั่นในการตั้งใจฝึกเด็กของท่าน… ได้รับการตอบรับ อีกทั้งรู้ดีว่านี่คือโอกาสสำคัญในการพัฒนาศักยภาพของนักกีฬาโรงเรียน
และเมื่อสนามฯ มา หลายๆ อย่างก็เปลี่ยนไป… ในทางที่ดีขึ้น
เหมือนฝัน… ที่เป็นจริง…
โครงการดังกล่าว กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ จัดขึ้นด้วยหวังให้เด็กไทยได้รับโอกาสในการพัฒนาทักษะด้านกีฬาฟุตบอล เพื่อสานต่อฝันด้านกีฬาฟุตบอลให้ก้าวไกล จากการมีพื้นที่มาตรฐานสำหรับฝึกซ้อมและพัฒนาทักษะเพื่อสานฝันสำหรับกีฬาลูกหนังนี้
พังโคนวิทยาคมเป็นโรงเรียนมาตรฐานในอำเภอเล็กๆ ของจังหวัดสกลนคร แน่นอนว่าโรงเรียนพังโคนวิทยาคมดำเนินการเรียนการสอนอย่างมีมาตรฐานมาโดยตลอด ทั้ง “พัฒนาโรงเรียนด้วยระบบคุณภาพ และพัฒนาผู้เรียนให้มีคุณภาพตามมาตรฐานสากล” และการเรียนดี… กีฬาเด่น เป็นคุณสมบัติพื้นฐานสำคัญในอุดมคติสำหรับศิษย์ของโรงเรียน
การประกาศรายชื่อผู้ได้รับคัดเลือกร่วมโครงการประจำปีแรกของโครงการเมื่อพ.ศ. 2560 โรงเรียนพังโคนวิทยาคมมีรายชื่ออยู่ในลำดับที่ 11 ของการประกาศผู้ผ่านการคัดเลือก ร่วมกับโรงเรียนอื่นๆ และชุมชนที่ผ่านเกณฑ์การคัดเลือกจากทั่วประเทศ ไม่ว่าจะเป็น โรงเรียนศรีอยุธยา ในพระอุปถัมภ์ฯ กรุงเทพฯ, โรงเรียนดอยเต่าวิทยาคม เชียงใหม่, โรงเรียนวังไกลกังวล ประจวบคีรีขันธุ์ เป็นต้น รวมทั้งหมด 20 แห่งด้วยกัน
แต่นั่นไม่สำคัญเท่ากับเวลาผ่านไปได้ไม่นานหลังจากมีสนามบอลมาตรฐาน พวกเขาก็คว้าแชมป์รายการสำคัญมาครองได้สำเร็จ
Suggestion
… ไปไกลให้ยิ่งกว่าฝัน …
ฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทาน “สิรินธรคัพ” เป็นการแข่งขันสำคัญของภูมิภาค มีประวัติมาอย่างยาวนานตั้งแต่ปีพ.ศ.2527 เป็นการแข่งขันฟุตบอลเยาวชนชิงชนะเลิศภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่ได้รับพระราชทานถ้วยรางวัลจากสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ใครได้รับรางวัลชนะเลิศ ไม่เพียงแต่จะได้ครอบครองถ้วยซึ่งถือเป็นเกียรติสูงและเงินรางวัลแล้ว ยังได้รับงบพัฒนาอำเภออีกด้วย
สำคัญยิ่งกว่าสำคัญคือความภาคภูมิใจในความสำเร็จที่พวกเขาได้รับ กับคุณภาพชีวิตของผู้คนของชุมชนในพื้นที่ต่างก็ดีขึ้น ไม่ว่าจะเป็นในด้านความเป็นอยู่ สุขภาพกายและใจ ไปจนถึงเศรษฐกิจโดยรอบ มีรายได้หมุนเวียนเพิ่ม…นับจากพ่อค้าแม่ค้าขายของกินหน้าโรงเรียน ไปจนผู้ประกอบการรถรับจ้าง… ผู้ประกอบการร้านขายอาหารในบริเวณใกล้เคียง
“ตั้งแต่มีสนามฟุตบอลมา พวกผมก็มีรายได้เยอะขึ้น”
“ตอนนี้ลูกค้าเต็มร้าน โต๊ะ เก้าอี้ ไม่พอนั่ง จนคิดอยู่ว่าจะขยายร้าน”
“มีสนามฟุตบอลมา รายได้เพิ่มขึ้นครับ… ได้ออกรถมาขายขนมจีบซาละเปา”
… ชุมชนดี(ด้วยกีฬา) มีชัยไปกว่าครึ่ง …
เท่านั้นยังไม่พอ ผู้คนในชุมชนยังแข็งแรงขึ้น ประกอบกับปัญหาเยาวชนยังลดลงไปได้อีกด้วย
“ในภาพรวม จะเห็นว่าการเจ็บไข้ได้ป่วยลดลง” นพ.วรรณกร เล่าสุอังกูร ผู้อำนวยการโรงพยาบาล อำเภอพังโคน พูดถึงสุขภาพของผู้คนในภาพรวมที่เห็นจากการมีสนามฟุตบอลได้ช่วย “เปลี่ยนชีวิต” ของคนที่นั่น อย่างน้อยก็ให้มีเรื่องของการออกกำลังกายเพิ่มมากขึ้น ในขณะเดียวกันก็ยังช่วยลดปัญหาสังคมในหลายๆ มิติลงไป
“เมื่อก่อนจะมีเด็กที่เล่นเกม เล่นการพนันบ้าง หลังๆ สิ่งเหล่านั้นก็ลดลง…” เจ้าหน้าที่ตำรวจ อำเภอพังโคนให้ภาพของการเล่นกีฬาที่ช่วยดึงผู้คน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเยาวชน หันมาใช้เวลากันอย่างสร้างสรรค์และออกมาจากอบายมุขรูปแบบต่างๆ ได้โดยปริยาย
“เราเป็นอำเภอเล็กๆ แต่ก็สามารถพัฒนานักกีฬาของเราให้ได้แชมป์” จ่าสิบเอก คำนึง พรหมพิมพ์ นายอำเภอพังโคนได้ทิ้งท้ายถึงสิ่งที่ไม่เคยเป็นไปได้ก่อนหน้านี้… แต่ได้เกิดขึ้นแล้ว แถมยังได้สร้างความหวังสำหรับสิ่งดีๆ ให้ปรากฎ
ตอนแรก “รางวัล” สำหรับโรงเรียนพังโคนวิทยาคมอาจมาในรูปแบบของสนามฟุตบอลสีน้ำเงิน และในความขยันฝึกซ้อมของพวกเขาได้กลายเป็น “อีกรางวัล” แห่งความสำเร็จ ส่วนชีวิตที่ดี…มีคุณภาพ น่าจะเป็นส่วนขยายผลสู่ชุมชนในวงกว้างยิ่งขึ้นต่อๆ ไป
