ผ้าฝ้ายผืนนี้มีความพิเศษ ไม่เฉพาะเพียงแต่ลวดลายกับความสวยงาม แต่ยังบรรจุเรื่องราวของธรรมชาติต้นไม้ ใบไม้ ดอกไม้และสมบัติจากท้องทะเลมาประกอบไว้ด้วยกันให้เป็นผ้าฝ้ายพิมพ์ลายธรรมชาติหมักโคลนทะเล
Thaipower.co กำลังตื่นเต้นกับความมหัศจรรย์จากผลงานผ้าของ “ลีลาฝ้าย” อีกหนึ่งวิสาหกิจชุมชนในตำบลพลา อำเภอบ้านฉาง จังหวัดระยอง ที่ใช้ผ้าฝ้ายฝีมือการทอของคนในชุมชน มาเติมความสวยงามและเพิ่มศักยภาพในการใช้งานด้วยการนำเอาโคลนทะเลที่มีในท้องถิ่นมาหมัก…ก่อนนำมาตัดเย็บเป็นชุดสวยในแพทเทิร์นต่างๆ โชว์ลายพิมพ์
อย่าว่าแต่คนไทยด้วยกันจะว่าน่าตื่นเต้น ฝรั่งต่างชาติเห็นผ้าหมักโคลนพิมพ์ลายสวยๆ แต่ละชิ้นของที่นี่แล้ว…เรียกว่าหลงรักกันทันทีเลยทีเดียว
โคลนทะเลของบ้านฉาง…ไม่เหมือนที่ไหน
ไม่น่าเชื่อนะ! ว่าโคลนจะช่วยให้ได้ผ้านุ่มเป็นพิเศษ ซึ่งเราอาจไม่เคยรู้มาก่อน…ว่าแล้วก็นึกขึ้นได้ว่าโคลนนี่ล่ะ ที่มักจะถูกนำไปใช้ทำมาสก์พอกหน้าหรือเป็นวัตถุดิบสำคัญหนึ่งสำหรับคอสเมติกบำรุงผิวหน้าช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น เริ่มใกล้ตัวขึ้นมาอีกนิดล
กลับมากันที่เรื่องของผ้า…สมัยก่อนตอนที่มนุษย์เรายังต้องทอผ้าใช้เองตามบ้าน ต้องย้อมสีต้องทำลวดลายกันเอง ก็อาศัยโคลนนี่ล่ะ เป็น “ตัวช่วย”
สิงหา พวงอ้อ คนบ้านฉางเจ้าของแบรนด์ “ลีลาฝ้าย” เล่าถึงการหมักผ้าด้วยโคลนทะเลให้เราฟังว่าเป็นภูมิปัญญาชาวบ้านเก่าแก่ที่มีอยู่นานแล้ว “จริงๆ แล้วเราไม่รู้เลยว่าขั้นตอนแบบโบราณเริ่มมาอย่างไร เป็นอย่างไร เราก็ลองผิด ลองถูก ลองเสียเรื่อยมา เริ่มจากเอาโคลนท้องนามาลองใช้ดูก่อน ตักขี้โคลนมาเลย แล้วก็เอาผ้าลงไปหมักๆๆๆ ทำครั้งแรกคือผ้าด่างทั้งผืนเลยครับ(หัวเราะ) พอออกมาไม่ได้สิ่งที่เราคิด…ก็ทดลองมาเรื่อยๆ และค่อยมาคิดได้ทีหลังว่าโคลนทะเลบ้านเรามันดำ มันเข้ม อย่างน้อยมันต้องให้มีสีเหลือติดผ้าอยู่บ้างสิ โคลนที่นำมาหมักจะช่วยให้ผ้าของเรานุ่มขึ้นอยู่แล้ว แต่ยังช่วยในการเปลี่ยนสีของผ้าและการเกิดสีของลายพิมพ์ธรรมชาติด้วย”
โคลนของที่นี่ไม่เหมือนใคร จะมีเนื้อละเอียดบริสุทธิ์ไร้เศษดินทราย สีเทานวลมีความเนียนตามลักษณะเฉพาะที่ปากทะเลของชายหาดพลา
การหมักผ้าใช้โคลน นอกจากช่วยความนุ่มแล้วยังช่วยทำให้สีที่จะย้อมติดกับเส้นด้ายได้ดี “ในตัวโคลนจะมีสารที่เรียกว่าสารแทนนิน เป็นเหมือนสารช่วยย้อมหรือสารกระตุ้นสี ให้สีติดผ้าได้ดีขึ้น โดยการต้มสกัดด้วยการต้มสกัดกับน้ำฝาดก่อนแล้วค่อยนำผ้าลงย้อม บางครั้งก็ได้สีที่เปลี่ยนไป แถมธาตุเหล็ก ยังช่วยให้ผ้าของเรานุ่มขึ้นได้ และยังป้องกันสีตกด้วย เพราะในโคลนทะเลมีความเค็ม โดยหมักผ้าทิ้งไว้ 3-4 ชั่วโมง”
ที่ “ลีลาฝ้าย” มีผ้าพิมพ์ที่มีทั้งที่เน้นสไตล์สีสดหรือสไตล์ของเอิร์ธโทนเหมาะกับคนที่อาจไม่ชอบผลงานแนวสีสดด้วย
Eco print ภูมิปัญญาท้องถิ่น และแฟชั่น
“งานของผมจะต่างจากงานของที่อื่นนิด โดยทั่วไปชาวบ้านเขาจะเอาผ้ามาจุ่มโคลนเลยโดยตรง แต่ผมต้องแยกน้ำโคลน เอาโคลนมากรองให้มีการตกตะกอน จากค่าที่มีความเป็นด่าง พอเราพัก ค่าเปลี่ยนความเป็นกรด ที่ช่วยในการเปลี่ยนสีของผ้า…”
และเมื่อหมักเสร็จเรียบร้อย ก็จะทำการย้อมสี ผ้าพิมพ์ลายของ “ลีลาฝ้าย” เลือกใช้สีธรรมชาติที่เป็นสีคราม นอกจากนั้นเรายังใช้สีของฝาง เป็นสีส้ม สีแดง ผสมลงไปด้วย
“ผมตั้งใจให้งานชิ้นนี้ออกมาเป็นสีออกครามอมน้ำเงิน ด้วยสีธรรมชาติที่ไม่มีเคมีเลย และเมื่อนำไปสวมใส่ กลิ่นของสีธรรมชาติ ยังช่วยบำบัดให้คนมีอารมณ์ดีขึ้นได้ด้วยครับ” สิงหาอธิบายถึงสิ่งที่ไม่เหมือนใคร “เราต้องคอยกลับผ้าที่นำลงไปย้อมอยู่เรื่อยๆ ด้วยครับ ย้อมทิ้งไว้อย่างน้อยครึ่งชั่วโมง จะต้องอยู่หน้าเตาตลอดเวลา จากนั้นก็ยกขึ้นจากเตาย้อม เอาขึ้นมาพักไว้ ตากไว้พักหนึ่ง แล้วเราก็จะเอาไปหมักโคลนอีกรอบ”
ส่วนแรงบันดาลใจในการทำลายผ้านี้ เขาได้มาจากภาพที่เห็นเพื่อนแชร์กันในเน็ต แล้วเกิดสะดุดความคิดว่ามีคนเอาใบไม้มาทำเป็นลายผ้าได้ด้วย เมื่อศึกษาต่อไปจึงพบว่านั่นคือเทคนิค Eco Print ซึ่งทำไม่ยาก มีความพิเศษตรงหยิบเอาความงามของธรรมชาติมาอยู่บนลายผ้าโดยใช้ใบละหุ่ง ใบหูกวาง แกนฟาง กิ่งโกงกาง ใบสัก…จากธรรมชาติที่อยู่รอบตัว
พิมพ์ลาย เพิ่มเอกลักษณ์
เขาเริ่มออกไปเก็บใบไม้ ดอกไม้ ที่มองด้วยตาแล้วน่าสนใจทั้งสีและโครงของใบกับดอกไม้เหล่านั้นมาสร้างสรรค์ลายบนผ้า
ใบหูกวาง ให้สีเหลืองเขียวหรือออกสีน้ำตาล ส่วนใบฝาดที่ต้นสูงขนาดช่วงตัว ใบเล็กๆ มีปลายมนจะมีขึ้นอยู่เยอะที่สุดในบริเวณปากทะเลนี้ (เป็นต้นสูงขนาดช่วงตัว ใบเป็นใบเล็กๆ ปลายมน ดอกผักบุ้งทะเลสีออกม่วงก็เคยนำไปทดลองสร้างลายดูแล้วก็สวยดี)
“ผมจะเลือกใบที่มีตำหนิ ลวดลายมันจะออกมาจากตัวใบด้วย ใบไม้ดอกไม้ที่เราเก็บมา เอามาหมักน้ำโคลนตัวเดียวกันได้ครับ ทุกขั้นตอนในการทำลายพิมพ์ คือต้องใช้โคลนช่วยดึงสีของใบไม้ออกมาบนตัวผ้าได้ง่ายขึ้น ใช้เวลาหมักประมาณ 2-3 ชั่วโมง จากนั้นผ้าก็จะสามารถนำไปทำเป็นลายใบไม้ได้เลย …”
ใบสักถูกหยิบมาวางบนผ้าผืนนี้สำหรับลายใบไม้ที่ต้องการได้สีชมพูแดง วางใบสักไปสักครึ่งหนึ่งของผืนผ้า ให้ดูเหมือนใบไม้ร่วงลงมาจากต้น แล้วเรียงใบไม้รูปร่างอื่นกับดอกไม้ที่เก็บมาสร้างสรรค์ลายธรรมชาติให้ได้ตามภาพที่นึกไว้
ผ้าอีกผืนที่มีขนาดเท่ากันถูกวางทับลงไปแล้วม้วนเป็นช่วงๆ โดยระวังอย่าให้ใบไม้ด้านในเขยื้อนออกจากที่ ม้วนให้แน่นโดยออกแรงที่หัวไหล่ ให้ผ้าม้วนนี้แน่นดีที่สุด ก่อนที่จะห่อด้วยพลาสติกที่ด้านนอกสุด แล้วเอาไปต้มในน้ำโคลนนาน 2 ชั่วโมง ถึงค่อยแกะ…ลุ้นลายกันต่อไป ได้เลย แกะใบไม้ที่วางทำลายพิมพ์ไว้ให้หมด จึงนำไปตากแห้งแล้วค่อยนำไปซักธรรมดา ได้ผ้าที่มีลายเหมือนกันออกมาครั้งละ 2 ผืน
ใบไม้เปียกถูกบรรจงวางบนผ้าแล้วม้วนห่ออย่างดี พร้อมให้ผ้าแต่ละผืนดูดซับเอาสารพัดสีและลายออกไปบันทึกไว้ด้วยภูมิปัญญาชาวบ้าน สร้างความมหัศจรรย์บนผืนผ้าด้วยเรื่องราวของต้นไม้ ใบไม้ ดอกไม้จากความสร้างสรรค์ของ “คนทำผ้า” ที่สร้างลายพิมพ์ไม่ซ้ำกันและยังไม่หยุดสร้างสรรค์อีกเรื่อยไป
“ต่อไปในอนาคต เรายังสามารถพัฒนาตัวเราเองไปได้อีกเรื่อยๆ อยากขอขอบคุณคิง เพาเวอร์ และกระทรวงพาณิชย์มากๆ ครับ ที่มองเห็นสินค้าชุมชนของเรา แล้วนำไปให้ชาวโลกได้เห็น… ทำให้ชาวบ้านมีรายได้มากขึ้น เหมือนเป็นการต่อยอดไปเรื่อยๆ” เขาปิดท้ายด้วยความภาคภูมิใจ
LEELAFAI
ที่ตั้ง : ผลิตภัณฑ์ผ้าหมักโคลนทะเล 5/320 ม.5 ต.พลา อ.บ้านฉาง จ.ระยอง 21130
Facebook: LEELAFAI
ข้อมูลสินค้าเพิ่มเติมที่ตลาดพลังคนไทย
คลิก: LEELAFAI
สนใจสินค้าพลังคนไทย สามารถสนับสนุนได้ที่คิง เพาเวอร์ทุกสาขา
ปักหมุดจุดเช็คอิน-แชะรูป-ท่องเที่ยวใกล้เคียง
• หาดพลา อยู่ไม่ไกลสนามบินอู่ตะเภา มีหาดสายขาวนวล น้ำทะเลใสที่เต็มไปด้วยความสงบ มีจุดชมวิวตรงสะพานปูนที่ยื่นลงไปในทะเลมุมดีที่เห็นทั้งเกาะแสมสารกันเลยทีเดียว
• “ถนนเดินกิน ถิ่นพลา” หาของกินท้องถิ่น ทั้งอาหารทะเลและอื่นๆ อีกสารพัดบนถนนคนเดินที่เต็มไปด้วยของกิน และการแสดงแบบเปิดหมวก แต่มีเฉพาะเสาร์ต้นเดือนช่วง 16-21 น.
• สวนผลไม้ ระยองยังได้ชื่อว่ามีสวนผลไม้สมบูรณ์ทั้งลองกอง มังคุด เงาะ และทุเรียน หลายสวนเปิดให้เที่ยวชมพร้อมเก็บ”บุฟเฟต์ผลไม้” ตามฤดูกาลแบบสดๆ จากสวนกันเลยทีเดียว