“ทั้งเท่ทั้งเก่ง” คือนิยามสั้นๆ ที่วง Power Buy เขียนทิ้งเอาไว้ในใบสมัคร เมื่อครั้งที่ผ่านเข้าไปหาประสบการณ์บนเวทีประกวดดนตรี THE POWER BAND ครั้งที่ 1 ซึ่งจัดขึ้นโดย คิง เพาเวอร์ ไทยเพาเวอร์ พลังคนไทย ร่วมกับ วิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล เมื่อปลายปีที่ผ่านมา
แม้เส้นทางหลังการประกวดจะไม่ได้ลงเอยที่เส้นชัย แต่อย่างน้อยฝีไม้ลายมือที่ฉายออกมาในรอบ Final วันนั้น ก็คงพอจะทำให้เราได้พบความสามารถหลายๆ ด้านจากกลุ่มดนตรีชายล้วนวงนี้ ที่มีดีไม่น้อยไปกว่าหน้าตาอย่างที่พวกเขานิยามตัวเองเอาไว้จริงๆ
งานนี้ Thaipower.co เลยต้องชวน ภูมิ ภูธิป แสงวิเศษ และ ปูร ปูรณ์ทรรศ ไชยวสุวงษ์ สองหนุ่มนักร้องนำ ของ Power Buy วงที่มีสมาชิกทั้งหมด 9 คน มาช่วยยืนยันความ “เท่และเก่ง” ของพวกเขากันด้วยตัวเอง แบบทำความรู้จักพวกเขา…แล้วจะได้รู้จักกับวงมากขึ้นไปอีก
รู้จักกับวงนี้
ที่มาของนิยาม “ทั้งเก่งทั้งเท่” ฉบับ Power Buy
• Power Buy เป็นวงดนตรีชายล้วน ที่โปรดปรานการเล่นดนตรีในแนวสกาเป็นพิเศษ
• พวกเขามีความสนิทสนมและแจมดนตรีเข้าขากันชนิดที่เรียกว่า “มองตาก็รู้ใจ”
• หากได้จับเครื่องดนตรีขึ้นมาบรรเลงด้วยกันเมื่อไร จะบังเกิดความสนุกสนาน ตามนิสัยขี้เล่น ขี้กวน ขี้ขิงกันในวง
• จนเป็นที่มาของนิยาม “ทั้งเก่งทั้งเท่” ซึ่งเป็นคำพูดติดปากของเหล่าสมาชิกของวงนั่นเอง
Suggestion
จาก THE POWER BAND สู่ Power Buy จุดเริ่มต้นของการสร้างแบนด์
ด้วยความที่สมาชิกทั้งหมดของวง Power Buy กำลังเป็นนักศึกษา ชั้นปีที่ 2 วิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล ฉะนั้นทั้งเรื่องเรียนกับเรื่องเล่นดนตรี จึงรวมเป็นเรื่องเดียวกันในชีวิตประจำวันของพวกเขา มาตั้งแต่เริ่มเข้าเรียนเตรียมอุดมดนตรี
หลังจากเรียนๆ เล่นๆ จนเข้ามหาวิทยาลัย เวทีประกวด THE POWER BAND ก็เปิดขึ้นพอดี ก๊วนเพื่อนสนิทซึ่งเรียนวิชาเอกเดียวกันทั้ง 9 คน จึงรวมตัวกันตั้งวงเพื่อเข้าประกวดในรายการนี้ ด้วยเหตุผล “อยากสนุก” “อยากหาประสบการณ์ และ “ปล่อยของ” ที่ได้ร่ำเรียนมาตามวิถีของนักเรียนดนตรี
“ตอนเราขึ้นปี 1 มีเพื่อนไปเจอโปสเตอร์การประกวด THE POWER BAND เขาก็มาชวนว่าไปลงกันไหม เล่นกันขำๆ มันๆ ผมก็เลยรู้สึกว่า เออ ลองดูสักที” ปูรบอกที่มาของการตั้งวง รวมถึงชื่อวงที่ไปละม้ายคล้ายชื่อแบรนด์การค้ายี่ห้อหนึ่ง “คือตอนแรกเราก็ไม่รู้จะตั้งชื่ออะไรดีครับ แต่ตอนนั้นเราจะต้องส่งแล้ว พอเห็นชื่อ Power Band ก็เลยคิดชื่อเป็น Power Buy เลยครับ” สองหนุ่มขบขันกับไอเดียการคิดชื่อวงของตัวเอง
“แค่มีแพสชันกับมันให้สุด…เราจะต้องมีความสุขกับสิ่งที่ทำก่อน คนอื่นถึงจะมีความสุขกับบทเพลงของเรา เสียงเพลงของเรามันถึงจะสื่อสารให้ไปถึงคนฟังครับ”
ภูมิ – ภูธิป แสงวิเศษ นักร้องนำ วง Power Buy
ขยับไปทำความรู้จักกับสองนักร้องนำแห่ง Power Buy ให้ใกล้ขึ้นอีกนิด…พื้นหลังในวัยเด็กของภูมิ หนึ่งในสองนักร้องนำ เขาเริ่มมีความสนใจให้กับการเล่นดนตรีมาตั้งแต่ชั้น ป.4
“ผมเห็นรุ่นพี่เขาเล่นดนตรีให้วงโยฯ กันแล้ว ผมก็อยากเล่นเพราะว่ามันดูเท่ดี (หัวเราะ) เพราะเราได้เป่าเพลงชาติอะไรอย่างนี้ครับ ผมเลยสมัครเข้าวงโยฯ ไปอยู่ในตำแหน่งแซกโซโฟน ก็เล่นมาเรื่อยๆ แล้วก็มาได้กีต้าร์เล่นตอนประมาณ ป.5 คือมีวันหนึ่ง ที่ได้ไปดูวง เดอะริชแมนทอย ไปแสดงที่เมกะ บางนา เลยเกิดแรงบันดาลใจว่าอยากจะเล่นกีต้าร์ (หัวเราะ) ก็เล่นจนไปถึง ม.1 จากนั้นผมก็เปลี่ยนไปเล่นแซกโซโฟนกับวงโยฯ อีกที แล้วก็เปลี่ยนไปเล่นกีต้าร์ตอน ม.3 ถึงมาสอบเข้ามหิดลตอน ม.4”
ส่วนปูรก็เข้าสู่เส้นทางดนตรี ในช่วงที่เรียนชั้นประถมไม่ต่างกับภูมิ ด้วยวันหนึ่งเขาไปค้นเจอกีตาร์ตัวเก่าของพ่อในห้องเก็บของ “ก็เลยสนใจอยากเล่นกีตาร์ครับ เพราะรู้สึกว่ามันดูเท่ดี เลยได้เริ่มฝึกตั้งแต่ตอนนั้น ก็ฝึกเล่นมาเรื่อยๆ กระทั่ง ม.3 แล้วก็มาสอบเข้าที่ดุริยางคศิลป์ตอน ม.4 จนมาเจอภูมิที่เรียนเอกกีตาร์เหมือนกัน”
Suggestion
In Love เพลงรักเท่ๆ งาน “โชว์ของ” จากนักร้อง-นักแต่งเพลงมือใหม่
ด้วยกติกาการประกวดครั้งนั้นสำหรับวงที่สมัครในคลาส E จะต้องมีหนึ่งเพลง ที่วงต้องแต่งขึ้นเพื่อใช้ในการประกวด และในความที่สมาชิกวงเรียนเอกกีตาร์กันมา โดยเฉพาะภูมิผู้รับหน้าที่ในการแต่งเพลง ถือเป็นโจทย์ที่ท้าทายที่สุด สำหรับคนที่ไม่ได้เรียนวิชาขับร้องและแต่งเพลงมาโดยตรง
“เพลงที่แต่งประกวด ชื่อเพลง In Love ครับ ผมเป็นคนแต่งเนื้อ ส่วนดนตรีพวกเราก็เอามาช่วยๆ กัน เพลงนี้ผมได้แรงบันดาลใจการเขียนเนื้อมาจากชีวิตของผมเองนี่แหละ” เขาเว้นวรรคด้วยการหัวเราะเขินๆ ก่อนเล่าต่อ “มันง่ายที่สุดแล้วครับ เพราะไม่ต้องไปจินตนาการอะไรเยอะ เลยเอาเรื่องของตัวเองมาแต่ง ก็ค่อนข้างท้าทายนะครับ เพราะผมเองไม่เคยแต่งเพลงไทยมาก่อน คือเคยแต่งมาบ้าง แต่จะเป็นเพลงภาษาอังกฤษ พอต้องมาแต่งเป็นเนื้อภาษาไทย มันหาคำลงยากครับ เลยต้องทำตัวเป็นกวีนิด (หัวเราะ) เลยยากพอสมควร”
เนื้อหาในเพลง In Love เป็นเรื่องราวของผู้ชายคลั่งรักที่มีต่อแฟนตัวเอง ภูมิเล่าว่าเขาใช้เวลาเขียนเพลงนี้อยู่ประมาณ 3 ชั่วโมงก็สำเร็จ และยังอธิบายต่อถึงโครงสร้างของเพลง “ผมจะวางคอร์ดไว้ก่อน แล้วค่อยสร้างจังหวะ ผมรู้สึกว่าเพลงมันสดใสแล้วก็มีชีวิตชีวา ผมเลยทำริธึมให้เพลงดูมีชีวิตชีวาหน่อย แล้วก็สร้าง topic ขึ้นมาว่า โครงเรื่องมันจะประมาณนี้ พอแต่งเสร็จก็เอาให้เพื่อนๆ ฟัง เพื่อนก็อยู่ในห้องด้วยกันตอนที่แต่งนี่แหละครับ พอเพื่อนฟังก็บอกว่า เอาเพลงนี้เลย (หัวเราะ) เราก็เลยเอาไปทำดนตรีใหม่”
เมื่อเพลงแรกของวงได้ถูกปล่อยออกไป ภูมิบอกว่ามันคือกำลังใจที่ยิ่งใหญ่สำหรับ Power Buy “ผมรู้สึกแฮปปี้มากครับ ที่เพื่อนๆ ในวงได้เล่นเพลงของพวกเราเองให้คนอื่นๆ ได้ฟัง เวลาผมเปิด YouTube ทีไร ผมเปิดเพลงนี้ฟังแล้วผมมีความสุขทุกครั้ง”
“พอได้ขึ้นโชว์บนเวที ผมก็รู้สึกว่าได้ปลดปล่อยครับ เพราะเราก็ซ้อมกันมานาน พอถึงวันนั้นมันก็รู้สึกเหมือนว่าเราปล่อยจอยนะครับ เราขึ้นไปแล้วก็ have fun แค่นั้นเลย” ปูรบอกความรู้สึกที่ได้รับมาไม่แพ้กัน
Suggestion
เราโยนคำถามว่า ทำไม Power Buy ถึงต้องมีนักร้อง 2 คน ?
ภูมิ ตอบทันที “ผมรู้สึกว่ามันช่วยแบ่งเบาความเป็นลีดเดอร์กันได้ครับ ในลักษณะของการเอนเตอร์เทนหน้าเวที คือผมจะเป็นคนเล่นกีตาร์ไปด้วยแล้วก็ร้องไปด้วย มันเลยทำให้ผมไม่สามารถจะไปสื่อสารกับคนดูโดยตรง ปูรเลยจะเป็นคนเข้ามาช่วยตรงนี้”
ปูร : “ผมเป็นตัวดีดครับ” ปูรเสริมพร้อมเสียงหัวเราะ
ภูมิ : “ตัวดีดก็คือคนที่จะดึงคนดูมาให้สนใจเรา เพราะเวลาที่พวกเราอยู่บนเวที พวกเราจะเต้นกันน้อยมากครับ” ภูมิช่วยให้ความกระจ่างในศัพท์คำว่า “ตัวดีด” ของพวกเขาให้เข้าใจมากขึ้น
ปูร : “อย่างที่ภูมิบอกครับ การมีนักร้องสองคน อย่างน้อยมันช่วยกันชูได้” ปูรเสริมขึ้นอีกครั้ง และเล่าถึงการแบ่งหน้าที่ในการร้องของพวกเขา “อย่างตอนช่วงแข่ง แต่ละคนก็จะจำเนื้อ จำอะไรไปก่อน ซ้อมทำดนตรีนู่นนี่นั่นไป พอทุกอย่างมันเริ่มลงตัวผมก็จะคุยกับภูมิว่า โอเค เดี๋ยวท่อนนี้จะเป็นใครร้องหลัก ท่อนนี้ใครร้องคอรัส หรือใครอาจอยากเป็นคนร้องตรงนี้ คนนี้อาจจะอยากร้องท่อนนั้น เราก็จะแบ่งกันแบบสบายๆ เลยครับ”
“พอได้ขึ้นโชว์บนเวที ผมก็รู้สึกได้ปลดปล่อยครับ เพราะเราก็ซ้อมกันมานาน พอถึงวันนั้น เราขึ้นไปแล้วก็ have fun แค่นั้นเลย”
ปูร – ปูรณ์ทรรศ ไชยวสุวงษ์ นักร้องนำ วง Power Buy
Suggestion
Power Buy…Safe Zone ของคนรักดนตรี
การรวมตัวเป็นวง Power Buy ในเวลานี้พวกเขามีเป้าหมายที่เห็นพ้องกันว่าอยากต่อยอดสร้างผลงานเพลงอื่นๆ ตามมาอีก และตอนนี้ภูมิบอกว่า เขามีเพลงที่แต่งเก็บไว้แล้ว 3 เพลง อาจจะทยอยปล่อยออกมาในระยะเวลาอันใกล้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นการทำงานเพลงในนามวง Power Buy ของสมาชิกแต่ละคนในกาลข้างหน้า จะไม่จำกัดตัวเองให้จริงจังกับความสำเร็จ แต่ให้ทุกสิ่งที่เข้ามาให้เป็นกำไรชีวิตก็พอ เพราะแต่ละคนยังเป็นแค่นักศึกษาที่ต่างมีเป้าหมายของตัวเองในเส้นทางชีวิตรออยู่ข้างหน้า
พวกเขาจึงอยากปล่อยให้ “Power Buy” คือ “พื้นที่ปลอดภัย” เป็น “พื้นที่แห่งความสบายใจ” ของสมาชิกวงได้มาจอยความสุขในการเล่นดนตรีร่วมกันเท่านั้นก็พอ!
“แค่มีแพสชันกับมันให้สุด แล้วก็แฮปปี้ครับถ้าทำอะไรแล้วมีความสุข เราก็จะมีความสุขตลอดไปเพราะว่าถ้าเราไม่มีความสุข สิ่งที่เราทำมันออกมา คนที่ได้ฟังเพลงของเรา เขาก็จะไม่มีความสุขเลยเพราะว่าเราไม่ได้มีความสุขกับมัน เพราะฉะนั้นเราจะต้องมีความสุขกับสิ่งที่ทำก่อน คนอื่นถึงจะมีความสุขกับบทเพลงของเรา เสียงเพลงของเรามันถึงจะสื่อสารให้ไปถึงคนฟังครับ” ภูมิบอกก่อนที่จะให้ปูรเป็นคนทิ้งท้ายต่อไป
“ผมเห็นด้วยกับภูมิตามนั้นเลยครับ คือทุกคนในวงเราก็จะคิดกันอย่างนี้อยู่แล้ว คือถ้าทำอะไร เอาความสุข เอาความสนุกนำก่อน ยิ่งถ้าเป็นเรื่องดนตรีขอให้เป็นเรื่องนี้ก่อนเลย เพราะอารมณ์ความรู้สึก มันสามารถสื่อผ่านดนตรีได้ เราจะทำไปทำไมครับ ถ้าเราทำแล้วไม่มีความสุข”
ย้อนกลับไปฟัง In Love เพลงรักเท่ๆ จากการแสดงของวง Power Buy ได้ที่
