ก่อนหน้านี้นานนับเป็นสิบปี โรงเรียนศรีเมืองพลฯ ไม่เคยได้สัมผัสถ้วยรางวัลฟุตบอลในระดับที่ไปได้ไกลกว่าการแข่งขันระดับโรงเรียนเลย จนกระทั่งมีสนามฟุตบอลสีน้ำเงินนี้ตั้งอยู่ในโรงเรียน สำหรับเป็นพื้นที่กิจกรรม… ทั้งฟุตบอล และอื่นๆ
แล้วหลายอย่างก็เปลี่ยนไป…ในทางที่ดีขึ้น ทีมนักกีฬาฟุตบอลของโรงเรียนได้เดินหน้า ฝึกซ้อมกันอย่างเข้มข้นและมีมาตรฐาน จนถึงการเป็นตัวแทนในระดับจังหวัดได้สำเร็จ!
ถามว่าอะไรที่ทำให้พวกเขาเข้าใกล้คำว่า “แชมป์” ได้มากยิ่งขึ้น?
คำตอบคือโอกาสในการพัฒนาการเล่นให้ไปไกลยิ่งกว่าที่เคยนั่นเอง
… สร้างเสริมศักยภาพ ให้เกิดพัฒนาการ …
โรงเรียนศรีเมืองพลฯ หรือโรงเรียนเทศบาลศรีเมืองพลประชานุเคราะห์ ที่มีนักเรียนจำนวนมากชื่นชอบการเล่นบอล เคยมีนักเตะอาชีพคนดัง อย่าง เนส-พชรพงษ์ ประทุมมา แห่งสโมสรนครราชสีมา มาสด้า เอฟซี ซึ่งเริ่มต้น “รัก” และ “เล่น” บอลก็ในตอนที่เรียนอยู่ที่นี่ แต่ความสำเร็จในแง่ของผลงานทีม…ทางโรงเรียนยังคงรอคอยและคาดหวังให้เป็นจริงขึ้นมา
สำหรับการเรียนการสอนของที่นี่ซึ่งมีมายาวนานนับ 62 แล้ว โรงเรียนได้สร้างชื่อเสียงด้วยนักเรียนที่ความสามารถในด้านต่างๆ หลากหลายมาโดยตลอด แต่พวกเขาหวังที่จะสำเร็จในด้านกีฬาบ้าง… โดยเฉพาะอย่างยิ่งกีฬาฟุตบอล
“โรงเรียนของเรามีสอนตั้งแต่อนุบาลถึงมัธยมศึกษาปีที่ 3 มีชื่อเสียงหลายด้าน เช่น งานอาชีพ นวดแผนไทย เสริมสวย ดนตรี นาฏศิลป์ และช่วงหลังมานี้เริ่มมีชื่อเสียงในด้านฟุตบอล เพราะมีสนามที่ได้มาตรฐานสากล จนทำให้เด็กๆ ได้มีพื้นที่ในการพัฒนาศักยภาพ” อาจารย์ทนงเดช สิงห์สุวรรณ รองผู้อำนวยการ โรงเรียนศรีเมืองพลฯ เป็นผู้ตัดสินใจเขียนจดหมายขอรับสนามฟุตบอลจากโครงการ ‘100 สนามฟุตบอล สร้างพลังเยาวชนไทย’ ของ คิง เพาเวอร์
ก่อนที่วันนี้จะมาถึง สนามฟุตบอลของโรงเรียนเคยเต็มไปด้วยพื้นผิวที่ขรุขระและเป็นดินลูกรังมาก่อน เมื่อไหร่มีฝนตก พื้นสนามจะกลายเป็นดินเลนไม่สามารถใช้ซ้อมกีฬาได้เลย
Suggestion
รู้จัก “เมืองพล” ที่มีโรงเรียนศรีเมืองพลฯ
เรื่องราวสำคัญในครั้งอดีต คือเมืองพลเป็นเมืองเก่าแก่ที่มีชื่ออยู่ในประวัติศาสตร์ ย้อนหลังไปไกลในสมัยพระเจ้าตากสินกับเหตุการณ์ที่พระองค์ทรงส่งเจ้าพระยาสองท่าน ไปปราบเจ้านครเวียงจันทร์ที่แข็งเมืองในเวลานั้น
เมืองพลแห่งนี้คือที่ตั้งค่ายหยุดพักกองทัพและฝึกไพร่พล ก่อนไพร่พลของพระองค์จะเตรียมเดินทางต่อไปยังเวียงจันทร์ ซึ่งการรบใช้เวลาอยู่นานร่วมสี่เดือน ก่อนเราจะได้ชัยชนะกลับมาและยังได้อัญเชิญพระแก้วมรกตกลับมาด้วยตามตำนานที่ทราบกัน
เวลาผ่านมาอีกแสนนานจนปัจจุบัน ที่นี่กลายเป็นชุมชนเล็กๆ เป็นอำเภอพลที่มีตำบลเมืองพล และมีโรงเรียนศรีเมืองพลฯ ที่ฝันถึงการเป็นแชมป์แบบลงมือทำ แล้วจนเมื่อสนามพร้อม! นักเตะก็พร้อมที่จะลงฝึกซ้อมกันอย่างเข้มข้น
“สนามสีน้ำเงินคือจุดเริ่มต้นที่ดี ปกติเด็กอนุบาลจะไม่ได้ออกมาทำกิจกรรมนอกห้อง เพราะพื้นที่ของเราเป็นดินลูกรัง เด็กอาจจะหกล้มได้ แต่พอมีสนามหญ้าเทียม ก็ทำให้เด็กอนุบาลทำกิจกรรมได้อย่างปลอดภัย ช่วยส่งเสริมพัฒนาการที่ดี และเด็กๆ ก็มีความสุขมากขึ้น นอกจากนั้นทุกปิดเทอม รุ่นพี่ที่ติดอะคาเดมีไปแล้วจะกลับมาฝึกฟุตบอลร่วมกับรุ่นน้อง มาแบ่งปันประสบการณ์และสร้างแรงบันดาลใจ เป็นบรรยากาศที่อบอุ่นมาก” อาจารย์ทนงเดชยังคงบอกเล่าด้วยความภูมิใจ
สนามที่รัก… ของทุกคน
แน่นอนว่าสนามของโรงเรียนศรีเมืองพลฯ เป็นพื้นที่ฝึกทักษะของเยาวชนที่รักและหลงใหลในกีฬาฟุตบอล ขณะเดียวกันพื้นที่สี่เหลี่ยมขนาดราว 33×53 เมตรแห่งนี้ ยังเป็นศูนย์รวมของชุมชน เป็นพื้นที่สำหรับคนทุกวัย.. รวมไปถึงนักเรียนต่างสถาบันก็ได้รับโอกาสให้เข้าใช้สนามแห่งนี้ด้วย อาจเรียกว่าเป็น “สนามแห่งความสามัคคี” ก็ไม่ผิด
ตั้งแต่ได้รับมอบสนามมานอกจากจะได้ใช้เป็นพื้นที่ฝึกซ้อมเพื่อหวังคว้าชัยชนะสำคัญๆแล้วโรงเรียนศรีเมืองพลฯยังใช้สนามนี้เป็นที่จัดกิจกรรมทั้งกิจกรรมกีฬาโดยตรงหรือกิจกรรมกีฬาสันทนาการอยู่เรื่อยมา
ส่วนบรรยากาศประจำวันในตอนหลังเลิกเรียน รือช่วงวันหยุด ณ มุมนี้ของโรงเรียนก็มักเต็มไปด้วยความครื้นเครง ไม่เฉพาะเพียงแต่สนามหญ้าสีน้ำเงินจะทำให้ผู้คนได้ “เล่นบอล” แต่ยังให้ทุกคนในชุมชนได้ออกมาทำกิจกรรมต่างๆ เป็นการใช้ประโยชน์จากสนามแห่งนี้ร่วมกันอย่างเต็มที่
Suggestion
… สามปี ที่ได้คว้าความสำเร็จ …
ตั้งแต่รับมอบสนามฟุตบอลหญ้าเทียมในปี 2561 มาถึงความสำเร็จของพวกเขาล่าสุด นับเป็นเวลาเพียงแค่ 3 ปีเท่านั้น ที่ทักษะด้านกีฬาฟุตบอลของนักเรียนของโรงเรียนศรีเมืองพลฯ มีการพัฒนาได้อย่างก้าวกระโดด จนผลงานโดดเด่นจนเก็บไว้ไม่อยู่
ไม่เพียงแต่นักเตะของโรงเรียนจะถูกดึงตัวไปเรียนกับอะคาเดมีชั้นนำ ผ่านการคัดตัวเยาวชนทีมชาติไทย ทั้งรุ่นอายุ 14 และ 16 ปี “ที่ผ่านมาทั้งฟุตบอลหญิงและฟุตบอลชาย เราตีทัพชนะไปหลายแห่งแล้ว เยาวชนของเราก็มีแมวมองจากอะคาเดมีดังๆ มาคัดตัวและดึงตัวเข้าสังกัดอยู่เรื่อย”
นอกจากนั้นแล้วพวกเขายังสร้างผลงานได้ดี โดยสามารถเป็นตัวแทนภาคอีสานไปแข่งขันฟุตบอลในมหกรรมกีฬาระยองเกมส์ ประจำปี 2562 ได้อีกด้วย
“แข่งฟุตบอลนักเรียนมา 10 กว่าปี ไม่เคยได้เป็นตัวแทนระดับภาค แต่ถึงวันนี้เรามาได้ไกลกว่าที่คิด และตั้งเป้าหมายจะเป็นที่หนึ่งของโรงเรียนในระดับเทศบาลในภาคอีสาน”
จริงอยู่ที่โรงเรียนเทศบาลศรีเมืองพลประชานุเคราะห์ยึดถือหลักแห่งความพอเพียงเป็นอุดมการณ์สำคัญ แต่ความมุ่งมั่นขยันฝึกซ้อมของพวกเขานับว่า “เกินเพียงพอ” สำหรับเป้าหมายของความสำเร็จที่คาดหวังในเวลานี้ และนั่นก็ไม่ใช่ฝันที่ไกลเกินเอื้อม… อีกต่อไป